เชลซี บุกมาเอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวดขยับไปเท่ากับ ลิเวอร์พูล ในตำแหน่งจ่าฝูงร่วม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
การเเข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2 เกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ คู่ระหว่าง อาร์เซนอล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี
ปืนใหญ่ ของ มิเกล อาร์เตต้า บุกไปโดน เบรนฟอร์ด น้องใหม่ไล่ต้อนในเกมนัดแรก เกมนี้ทีมจะขาด เบน ไวท์ และ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ที่ป่วย โดยมาในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดย นิโกลาส์ เปเป้ , เอมิล สมิธ-โรว์ , บูกาโย ซาก้า แลล กาเบรียล มาร์ติเนลลี ได้รับโอกาสลงเป็นกองหน้าตัวเป้า
ฝั่ง เชลซี ของ โธมัส ทูเคิล ประเดิมสามแต้มกับ คริสตัล พาเลซ ในเกมแรก เกมนี้วางหมากมาในระบบ 3-4-2-1 นำมาโดย เมสัน เมาท์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปั้นเกมอยู่ด้านหลัง โรเมลู ลูกากู หัวหอกใหม่ป้ายแดงลงประเดิมสนามเกมแรก
ผลปรากฎว่า ครึ่งเเรก ไม่ถึง 2 นาทีแรก เจ้าบ้านได้ทักทายก่อน บูกาโย่ ซาก้า โหม่งตั้งมาให้ สมิธ โรว์ ได้ซัดทันที แต่บอลเบาและไปตรงตัว เอดูอาร์ เมนดี้
นาที 15 เชลซีได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ มาเตโอ โควาซิช เปิดบอลออกไปให้ รีซ เจมส์ ทางฝั่งขวา ก่อนที่จะตบกลับเข้ามากลางประตูให้ โรเมลู ลูกากู ได้ชาร์จจ่อๆ เข้าไปอย่างง่ายดาย ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูแรกในสีเสื้อเชลซีของเจ้าตัวด้วย
นาที 35 เชลซีได้ประตูที่ 2 เมสัน เมาน์ท จ่ายออกข้างไปให้ รีซ เจมส์ ที่เติมขึ้นมา ได้ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเสียบคานอย่างสวยงาม แบร์นด์ เลโน่ หมดสิทธิ์ป้องกัน ทำให้เชลซีทิ้งห่างไปเป็น 2-0 ทำให้จบครึ่งแรกตามหลังเชลซีอยู่ 0-2
ครึ่งหลังมานาที 52 เจ้าบ้านได้ลุ้นประตูตีไข่แตก บูกาโย่ ซาก้า ตั้งป้อมซัดไกลด้วยซ้ายทันที บอลแรงพุ่งจะเสียบคานอยู่แล้ว แต่ยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้
นาทีที่ 59 นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดลูกเตะมุมให้เจ้าบ้านเข้ามาทางเสาไกล ปาโบล มารี โหม่งชงกลับมาให้ ร็อบ โฮลดิ้ง ได้โขกต่อ บอลเฉียดคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 77 เชลซีเกือบได้ประตูที่ 3 เมสัน เมาน์ท หยอดบอลมาในเขตโทษให้ ลูกากู ได้โหม่งเต็มๆ บอลกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ แบร์นด์ เลโน่ ปัดไปชนคานอย่างเหลือเชื่อ
สุดท้ายหมดเวลา เชลซี ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวดขยับไปเท่ากับลิเวอร์พูลในตำแหน่งจ่าฝูงร่วม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news