ธีรศิลป์ แดงดา ยืนยันเรื่องสถิติส่วนตัวไม่สำคัญเท่ากับชัยชนะของทีม แม้จ่อทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลชิงแชมป์อาเซียน
ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ยืนยันว่าเรื่องสถิติ ส่วนตัว ไม่สำคัญเท่ากับชัยชนะของทีมในศึกชิงแชมป์อาเซียน
โดยกองหน้าทีมชาติไทยมีโอกาสทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หลังยิงไปแล้ว 15 ประตู ตามหลัง นอห์ อลัม ชาห์ ตำนานทีมชาติสิงคโปร์ ที่ทำไว้ 17 ประตู
“สองวันที่ผ่านมา อาจจะยังทำอะไรไมได้มาก หลายๆคนก็เพิ่งมีเกม ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการฟื้นฟูร่างกาย และอาจจะมีการเริ่มใส่วิธีการไปบ้าง แต่หลักๆ คืออยากให้ทุกคนพร้อมและสมบูรณ์มากที่สุด และยังเชื่อว่าเรายังมีเวลาอีก 4-5 วัน และเชื่อว่าในวันที่ 5 ทุกคนน่าจะมีร่างกายที่สมบูรณ์ พร้อมกับแท็คติกของมาโน” ธีรศิลป์ กล่าว
“เรื่องการทำลายสถิติดาวยิงตลอดกาลรายการนี้ ด้วยการที่ผมเป็นกองหน้า ก็พยายามทำประตูให้ได้ทุกครั้งที่ลงเล่น และทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ว่า เรื่องของสถิติ ไม่ได้โฟกัสกับมันมากเท่าไหร่ เราอยากช่วยทีมให้ได้ชัยชนะ และคว้าสามแต้ม หวังว่าทีมจะได้ผลงานที่ดีกลับมา เรื่องสถิติส่วนตัว ถ้าทำได้ก็ดีใจ และภูมิใจ แต่เราคงไม่เอามันเป็นโฟกัสหลัก”
“การเล่นร่วมกับ เจ และ อุ้ม ก่อนอื่นก็ดีใจครับที่ได้กลับมามีชื่ออีกครั้ง และด้วยสถานการณ์โควิด โปรแกรมทีมชาติก็เว้นไปค่อนข้างนาน และช่วงที่ผ่านมาผมก็มีอาการบาดเจ็บ ก็เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมาติดทีมชาติ และได้มาเจอกับเจ และ อุ้ม รวมถึงหลายคนที่เคยเล่นร่วมงานกันมา”
“เป้าหมายในรายการนี้ ทุกคนอยากคว้าแชมป์ให้ได้ รวมถึงตัวผมเองด้วย หวังว่าเราจะมีผลงานที่ดีในตอนสุดท้าย สิ่งสำคัญที่สุด เราต้องมองไปทีละเกม เริ่มตั้งแต่นัดแรก ที่สำคัญมากในการเปิดหัวทัวร์นาเมนต์ เราต้องมองที่เกมแรกก่อน และค่อยๆไปทีละนัด และเป้าหมายหลักคือการไปให้ถึงแชมป์”
สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2020 ของทีมชาติไทย มีดังนี้
5 ธันวาคม 2564 เวลา 16.30 น.
ติมอร์-เลสเต พบกับ ไทย
11 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น.
ไทย พบกับ เมียนมา
14 ธันวาคม 2564 เวลา 16.30 น.
ฟิลิปปินส์ พบกับ ไทย
18 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น.
ไทย พบกับ สิงคโปร์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news