‘มาโน’ เร้าช้างศึก ต้องมีสมาธิ เกมชี้ชะตากับฟิลิปปินส์
มาโน โพลกิ้ง หน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย เร้าลูกทีมต้องมีสมาธิเต็มที่ เกมชี้ชะตาเข้ารอบกับ ฟิลิปปินส์ ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020
สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ขึ้น ทางทีมชาติไทยได้ส่ง มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าร่วมการแถลงข่าว
ภายในงานแถลงข่าว มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า “เกมนี้คือเกมสำคัญ ที่จะตัดสินได้เลยว่าทีมไหนจะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ได้ต่อไป ส่วนสภาพความพร้อมของทีมตอนนี้ นักเตะทุกคนอยู่ในสาพิตสมบูรณ์ พร้อมลงสนามทุกคน แต่ต้องยอมรับว่า เรามีเวลาะหว่างแมตช์ค่อนข้างน้อย เลยทำได้แค่ฟื้นฟูสภาพร่างกายทุกคนเท่านั้น แต่เราได้วิเคราะห์เกมกับเมียนมา และพยายามแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ และรักษาจุดแข็งจากเกมล่าสุดและทำให้ดีขึ้นในเกมนี้ สิ่งสำคัญคือเราต้องมีสมาธิให้ดี”
“เราเองได้ดูการเล่นของฟิลิปปินส์ มาพอสมควร และส่วนตัวผมก็รู้จัก สกอตต์ คูเปอร์ โค้ชของฟิลิปปินส์ มาเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยทำงานในไทยมาก่อน และรู้จักไทยลีกรวมถึงนักเตะไทยเป็นอย่างดี นักเตะฟิลิปปินส์ หลายคนมีประสบการณ์ในไทยลีกมาแล้ว แม้ทีมชุดนี้จะไม่ได้มีดาวรุ่งมากมาย แต่มีความแข็งแกร่ง และเราต้องห้ามประมาท เกมที่พวกเขาเล่นกับติมอร์ เห็นได้ชัดว่า ติมอร์ เองส่งตัวสำรองลงหลายคน เลยมองอะไรได้ไม่มาก และเราพยายามวิเคราะห์พวกเขาจากเกมที่พบกับ สิงคโปร์ มากกว่า”
“สำหรับสองนักเตะ ในรายการของ โจนาธาน เข็มดี เขามีสภาพร่างกายไม่พร้อมเต็มที่ และหลังจากที่ได้ปรึกษากับทีมแพทย์ เลยได้แนะนำให้เขากลับไปรักษาตัวเองที่ประเทศเดนมาร์ก แต่ผมเชื่อว่าเขายังมีอนาคต และสามารถพัฒนาได้อีก และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาต้องกลับเดนมาร์กก่อนกำหนด”
“ด้าน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ พ่อของเขาป่วยหนัก และเขาต้องกลับไปดูแล อย่างไรก็ตาม เรื่องสภาพของนักเตะทุกคนตอนนี้เราไม่ได้กังวลเท่าไหร่ เพราะเกมรับของเราถือว่าทำได้ดีมาก และมีจำนวนนักเตะที่มากเพียงพอทั้งในตำแหน่งกองหลัง และ ผู้รักษาประตู”
สำหรับ โปรแกรมนัดต่อไปของฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2020 ของทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ วันที่14 ธันวาคม 2564 เวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news