Home
|
ข่าว

ช้างศึกเจ๊า อิเหนา 2-2 รวมผลชนะ6-2 ทวงคืนเจ้าอาเซียน

Featured Image
ทีมชาติไทย โดน อินโดนีเซีย ตามตีเสมอ 2-2 สกอร์รวมสองนัดช้างศึกชนะ 6-2 ซิวเจ้าอาเซียน สมัยที่ 6 ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020

 

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ นัดชิงชนะเลิศเลกสอง ทีมชาติไทย พบกับ อินโดนีเซีย

 

เกมแรก ไทยชนะอินโดนีเซีย มาก่อน 4-0 ทำให้เกมนี้กุมความได้เปรียบไว้พอสมควร  เกมนี้ มาโน โพลกิ้ง ตัดสินใจให้ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ เป็นกองหลังคู่กับ กฤษดา กาแมน ต่อ ส่วนแนวรุกใช้ชุดเดิม พร้อมเปลี่ยน แบ็คสองข้าง มาใช้ตัวจริงอย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม อีกครั้ง เริ่มเกมมา 7 นาที อินโดนีเซีย มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ริคกี้ คัมบัวยา ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดไม่ออกบอลเข้าประตูไปให้ อินโดนีเซียนำไทยก่อน 1-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มเติม จบครึ่งแรก อินโดนีเซีย นำไทยอยู่ 1-0

 

 

กลับมาครึ่งหลังไทยเปลี่ยน อดิศักดิ์ ไกรษร, วีรเทพ ป้อมพันธุ์ และ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ลงมาเล่นแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ปวีร์ ตัรฑะเตมีย์ และ ธีรศิลป์ แดงดานาทีที่ 54 ไทยมาได้ประตุตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา ได้หลุดเดี่ยวยิงไปติดเซฟ นาดีโอ กระเด้งมาเข้าทางอดิศักดิ์ ไกรษร ซ้ำเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 และนาทีที่ 56 ไทยมาได้ประตูแซงนำ จากจังหวะที่ อินโดนีเซีย สกัดบอลกันไม่ขาดมาเข้าทาง สารัช อยู่เย้น ยิงสวนด้วยขวาเข้าไปให้ ไทย แซงนำ 2-1 ก่อนนาทีที่ 80 อินโดนีเซีย มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะลุยขึ้นมาก่อนที่เอกี้ เมาลานา จะยิงด้วยซ้ายเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ทีมชาติไทย เสมอกับ อินโดนีเซีย ไป 2-2 และผลเสมอในนัดนี้ทำให้ทีมชาติไทย เอาชนะ อินโดนีเซีย ไปด้วยสกอร์รวม 6-2 พร้อมกับคว้าแชมป์อาเซียน มาครองได้เป็นสมัยที่ 6 มากที่สุดในทุกชาติในอาเซียน โดยไทยจะเดินทางกลับบ้านทันที โดยจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 2 มกราคม 2565 เวลา 14.50 น. โดยประมาณ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube