โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำทีมชาติไทย U23 กลับถึงไทย พร้อมเชื่อเด็กในทีมชุดนี้หลายคนต่อยอดได้
วันที่ 11 มิถุนายน 2565 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เดินทางกลับถึงประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จภารกิจชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายที่ ประเทศอุซเบกิสถาน ทีมชาติไทย เก็บได้สี่คะแนนจากสามนัด จบด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มซี
หลังเดินทางถึง วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า “ผมว่าเราก็น่าพอใจครับว่า ด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้เราพลาดโอกาสเข้ารอบ 8 ทีม แต่ถ้าเรามองกลับกันคือด้วยเวลาเตรียมตัว และนักเตะบาดเจ็บ ถ้าในเกมสุดท้าย เรามีทุกคนพร้อม เราน่าจะมีโอกาส อย่างน้อยเก็บสี่คะแนนก็ถือว่าน่าพอใจ”
“มันมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมีอาการไม่สบาย ก็เลยจัดตัวนักเตะที่พร้อมลงสนามไป เรามีปัญหาเรื่องเวลา เรามีเวลาเจอกับชุดทีดีที่สุดคือวันที่ 31 วันเดียวที่ได้ซ้อมร่วมกัน โดยภาพรวมผมว่าชุดนี้มีอนาคตหลายคน สามารถเล่นในระดับเอเชียได้ อย่างเกมกับเกาหลี ถ้าเราพร้อม ผมก็มองว่าเราน่าจะพัฒนาไปสู้กับเขาได้ครับ”
“สำหรับนักกีฬาจากต่างแดนทุกคนโอเคหมด แม้กระทั่งยานนิค อย่างเราเรารู้ว่าเขาติดสอบ แต่เราก็ได้คุยกับสตาฟฟ์โค้ชแล้วว่าเราต้องการให้เขามาแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเล่นได้ เขาเพิ่งอายุ 18 ปี เท่านั้น”
ด้าน โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน กล่าวว่า “ผมคิดว่าเราต้องคุยกันให้ชัดเจน เราเป็นผู้ปฏิบัติ นักเตะเองก็พูดอะไรไม่ได้ ผมว่าเราห้ามวัวหายล้อมคอก เราต้องจริงจัง เพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยให้ต่อเนื่อง ทัวร์นาเมนต์นี้ มีเหตุการณ์เฉพาะหน้าเกิดขึ้น เราไม่แก้ตัว และยอมรับความพ่ายแพ้ และตกรอบ เราต้องกลับมาพัฒนากันใหม่ อย่างที่โค้ชโย่งบอก เด็กชุดนี้สามารถไปต่อในระดับเอเชีย”
“เราก็คงรอให้ผู้ใหญ่ ทั้งมาดามแป้ง ผู้จัดการทีม และสมาคมฯ ตัดสินใจเรื่องนี้ ผู้ใหญ่มีหน้าที่ตัดสินใจ ส่วนเรามีหน้าที่ปฏิบัติ ที่กลับมานี้ น้องคนไหนไม่สบาย หรือบาดเจ็บ เราจะติดตามต่อให้สมบูรณ์”
“เราเจอกับปัญหาสภาพอากาศหลายอย่าง และเราก็ต้องดูแลกันอย่างดี ในทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่มีการตรวจโควิด แต่ทางคุณหมอก็ดูแลเราอย่างดี และไม่เจอเชื้อ แต่กลับมาเราต้องดูแลตัวเอง และจะมีการเฝ้าระวังเพื่อสังคม ส่วนคนที่สภาพร่างกายไม่ดีเราก็ต้องช่วยเหลือพวกเขาต่อไปเพือให้มีสภาพสมบูรณ์”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews