กกท.ทำ MOU หนุนองค์ความรู้การใช้สารต้องห้ามฯร่วมกับส.ยกน้ำหนักฯ
การกีฬาแห่งประเทศไทย ลงนาม MOU สนับสนุนองค์ความรู้การใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ร่วมกับ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย
นายมีชัย อินวู๊ด ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา กกท. และนายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ด้านการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา โดยมี พลอากาศโท วัฒนชัย เจริญรัตน์ อุปนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และนางลักษมณ ภาวิลาส ผู้อำนวยการกองควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา กกท. เป็นสักขีพยานในพิธีฯ พร้อมทั้ง คณะผู้บริหาร เข้าร่วมในพิธีลงนาม ณ ห้องประชุมทรัพย์มณี ชั้น 2 โรงแรมทาวน์อินทาวน์
ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา กกท. กล่าวว่า การบันทึกข้อตกลง (MOU) ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และเผยแพร่ข่าวสาร เพื่อพัฒนาความรู้ของบุคลากรทางการกีฬา และนักกีฬาในสังกัดสมาคม เรื่องการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เพื่อให้ทราบถึงความรู้ด้านวิชาการ หรือความรู้ด้านการป้องกันการใช้สารต้องห้ามในนักกีฬา รวมทั้งการตรวจสารต้องห้ามทางการกีฬาในนักกีฬาของสมาคม
ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา กกท. จะให้การสนับสนุนในส่วนของการประเมินผล และติดตามผลการให้ความรู้ พร้อมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความรู้ อาทิ เช่น การออกบูธนิทรรศการ การประชาสัมพันธ์ คู่มือความรู้เรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เข้าเก็บตัวอย่างสารต้องห้ามกับนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะ เลือด เพื่อเป็นการติดตามผล และเฝ้าระวังการใช้สารต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำปรึกษา ความคิดเห็น และแนวทางด้านการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา
ส่วนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะให้การสนับสนุนในส่วนของการจัดส่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ เข้ารับความรู้ทางด้านสารต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่อบรมในหลักสูตรผู้ให้ความรู้ด้านสารต้องห้ามทางการกีฬา (EDUCATOR) เพื่อเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา
นอกจากนี้ทางสมาคมจะดำเนินการจัดทำ และปรับปรุงข้อมูลที่อยู่ของนักกีฬา (WHEREABOUTS) ให้มีความทันสมัยอยู่เป็นประจำ และจัดการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักของสมาคมในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมกีฬา โดยบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาไทยและบุคลากรทางการกีฬาไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
