Home
|
ข่าว

ส.กีฬาม้าแข่งหารือก่อนศึกชิงแชมป์ประเทศไทย

Featured Image
“ส.กีฬาม้าแข่ง” จับมือ “ราชกรีฑาสโมสร” จัดศึกม้าแข่งไร้พนันชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงชัยนิวนอร์มัล-ทีสปอร์ตยิงสด 16 พ.ค.นี้

“เสธ.น้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬาม้าแข่งไทย ด้ร่วมกันประชุมเพื่อหารือแนวทางเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาม้าแข่ง โดยไม่มีการพนัน ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2564 ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ สรุปประเด็นสำคัญมีดังนี้ ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าสมาคมกีฬาม้าแข่งไทยและสมาคมราชกรีฑาสโมสร จะร่วมมือกันจัดการแข่งขันกีฬาม้าแข่ง โดยไม่มีการพนัน ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2564 ในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค.นี้ ที่สนามราชกรีฑาสโมสร เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 10 เที่ยว (สมาคมฯ ละ 5 เที่ยว) ระยะ 1,200 เมตร ถ่ายทอดสดทางช่องที-สปอร์ต (T-Sport), ยูทูป และเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องของเงินรางวัลนั้น ทั้ง 2 สมาคม จะมีการพิจารณาร่วมกันและจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย จะทำหนังสือไปยัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อขออนุญาตจัดการแข่งขันกีฬาม้าแข่ง โดยไม่มีการพนัน เข้ามาเกี่ยวข้อง และจะจัดการแข่งขันแบบนิวนอร์มัล ตามมาตรการของ ศบค. อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่

ขณะที่ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ก็จะต้องทำหนังสือขออนุญาตไปยังกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งการแข่งขันกีฬาม้าแข่งในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของคนในวงการกีฬาม้าแข่ง เพราะว่าจะเป็นรายการแรกที่จัดขึ้น หลังจากที่ต้องพักไปอย่างยาวนานเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับเป็นความร่วมมือของทั้ง 2 สมาคม ที่ต้องการเห็นวงการกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นก้าวแรกก็ตาม ส่วนจะสามารถเปิดให้คนเข้าชมในสนามได้หรือไม่นั้น ตรงนี้ขึ้นอยู่กับทาง ศบค. ซึ่งเราพร้อมปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม แม้ ศบค. จะเปิดไฟเขียวให้เข้าชมในสนามได้แต่ก็เล่นการพนันไม่ได้เพราะว่าเราจัดให้เป็นการแข่งขันกีฬาม้าแข่งอย่างแท้จริงนั่นเอง

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube