ลิขสิทธิ์ไทยลีก วุ่น หลังมีผู้ยื่นประมูลเพียงแค่รายเดียว ในราคาเพียงแค่ 50 ล้านบาท ด้าน สโมสรมีมติเห็นชอบขอแยกตัว จัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นการแก้ปัญหา
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ(ใหม่) ได้มีการประชุมของ บ. ไทยลีก จำกัด โดยมีตัวแทนจาก 16 สโมสรในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023/24 เข้าร่วมประชุมหารือ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่ยังไม่สามารถหาผู้ถือลิขสิทธิ์ ที่สามารถยื่นราคาเท่ากับที่ทางสมาคมฯ ต้องการได้
ซึ่งภายหลังจากการประชุมเครียดเกือบ 4 ชม. สรุปออกมาได้ว่า ทั้ง 16 สโมสร มีมติเห็นชอบขอแยกตัวออกมาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และจะตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นการแก้ปัญหา และบริหารจัดการในด้านสิทธิประโยชน์เอง หลังมีผู้ยื่นประมูลลิขสิทธิ์มาเพียงแค่รายเดียว ในราคาเพียงแค่ 50 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการจัดการถ่ายทอดสด ที่มากถึง 300 ล้านบาท ใน 1 ฤดูกาลแข่งขัน
โดยรูปแบบของบริษัทใหม่ ที่สโมสรในไทยลีก 1 จะตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการบริหารในด้านสิทธิประโยชน์เองนั้น จะเป็นรูปแบบผู้ถือหุ้น 16+1 แบ่งเป็น 16 ทีมในศึกไทยลีก 1 ทีมละ 1 หุ้น รวมเป็น 16 หุ้น ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อีก 1 หุ้น รวมเป็น 17 หุ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าวนี้ จะถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อลงมติรับรอง ในวันที่ 3 ก.ค. ต่อไป ส่วน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า “มี 2 บริษัทที่ยื่นประมูลถ่ายทอดสดเข้ามา แต่ตัวเลขไม่เป็นไปตามเป้า มีทั้ง 50 ล้านบาท มากกว่า และก็น้อยกว่า ซึ่งแพ็กเกจในการถ่ายทอดก็ยื่นมาไม่เหมือนเมื่อก่อน คือ ทั้งทีมชาติและไทยลีก ซึ่งการนำลีกมาทำเอง ไม่ได้ขายลิขสิทธิ์ ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายว่าจะหารายได้ ได้เท่ากับที่ขายหรือไม่”
ทั้งนี้ ไทยลีก 1 จะเริ่มแข่งขันนัดแรกในวันที่ 11 สิงหาคม 2023-วันที่ 16 มิถุนายน 2024 ขณะที่ไทยลีก 2 ฤดูกาลปกติ จะเริ่มแข่งขันวันที่ 11 สิงหาคม 2023-วันที่ 18 พฤษภาคม 2024 ส่วนในรอบเพลย์ออฟของไทยลีก 2 เริ่มแข่งขันวันที่ 1 มิถุนายน 2024-23 มิถุนายน 2024
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews