เอริค เทน ฮาก กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับทีมขาดวินัยในการเล่นทำให้โคเวนทรี ตามตีเสมอได้ 3-3 แต่การชนะจุดโทษทีมแชมป์เปี้ยนชิพ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องอาย
การแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ โคเวนทรี ซิตี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ผลสกอร์ออกมาเสมอที่ 3-3 โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่นำก่อนถึง 3 ประตู แต่ก็ผิดพลาดโดน โคเวนทรี ตามตีเสมอก่อนจะต่อเวลาพิเศษและดวลจุดโทษกัน ท้ายที่สุดเป็นแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ดที่คมกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 ทำให้เข้าชิงบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ติดต่อกันเป็นปีที่สอง
จากการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีข้อผิดพลาดให้เห็นเยอะพอสมควร ด้านของ เอริค เทน ฮาก กุนซือของทีมได้ออกมากล่าวหลังจบเกมว่า “เราต้องปรับปรุง และคุยเยอะมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างแรกเลย คุณต้องพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งของผู้ชนะ แต่จากนั้นคุณต้องข้ามเส้นต่อไปให้ได้ ในช่วงเวลาตอนนี้น่ะที่เราทำผิดพลาด ไม่รักษาความรับผิดชอบของเราไว้”
“เราคอนโทรลทุกอย่างได้หมดแล้วก็ปล่อยมันในช่วงสุดท้ายของเกม และต้องชื่นชมโคเวนทรี กับสิ่งที่พวกเขาทำในช่วง 15 นาทีสุดท้าย”
“เราคงพูดไม่ได้ว่าเด็กกลุ่มนี้ ไม่มีจิตใจที่มุ่งมั่น เพราะวันนี้พวกเขาแสดงออกมาให้เห็นแล้ว เพียงแค่ตอนสุดท้ายเขาขาดวินัย”
นอกจากนี้ เทน ฮาก ยังโดนถามว่าพวกเขาจะกลับจาก เวมบลี่ย์ ด้วยความรู้สึกอับอายหรือไม่ ในเรื่องของการที่ต้องดวลจุดโทษกับทีมอันดับ 8 ในลีกแชมป์เปี้ยนชิพ หลังโดนตามตีเสมอได้ 3-3 ในช่วงเวลา 90 นาที
ด้านของ เทนฮาก กล่าวว่า “มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เราเข้าถึงรอบชิง เอฟเอ คัพ ได้สองปีติด”
” 20 ปีหลัง แมยู เข้ารอบชิงได้แค่ 5 ครั้ง ดังนั้นผลงานนี้คือความสำเร็จมหาศาล วันนี้เรานำ 3-0 แบบเป็นฝายที่เหนือกว่ามาก แต่เราใช้วิธีปิดเกมได้ไม่ดีพอ”
นอกจากนี้ เทนฮากยังกล่าวไปถึง ผลการตัดสินของกรรมการที่เขารู้สึกว่าการตัดสินนั้นแปลก และรู้ว่าทีมเขาควรจะได้จุดโทษและขึ้นนำ 4-3 และเขาก็กล่าวไปถึงเกมที่เจอกับเชลซี ว่า “กับเชลซี เราเสีย 2 จุดโทษแบบผิดปกติเช่นกัน และโดนแบบนั้นอีกครั้งในเกมกับ ลิเวอร์พูล แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังโดนคำสาป”
สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาจะเข้าไปเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ณ สนามเวมบลีย์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCmL7sBjm02WNURAOxGzq25w
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
