ไทยลีก ลงโทษปรับเงิน บางกอก แฟนบอลจุดพลุแฟลร์ฉลองแชมป์

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ ลงโทษปรับเงิน บางกอก เอฟซี  เหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ฉลองแชมป์ไทยลีก 3

 

คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันฟุตบอล และเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน โดยมีผลการพิจารณาบทลงโทษ ประกอบด้วย เรื่องพิจารณาลงโทษสโมสร จำนวน 1 เรื่อง และ เรื่องพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน จำนวน 1 เรื่อง ตามรายละเอียด ดังนี้

 

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ “รายการปุ๋ยรุ่งอรุณ ลีก” ไทยลีก 3 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 คู่ระหว่าง สโมสรบางกอก เอฟซี พบ สโมสรศรีสะเกษ ยูไนเต็ด

 

#เหตุการณ์

ในช่วงพิธีการมอบถ้วยรางวัลให้กับทีมชนะเลิศใน เวลา 20.51 น. ได้มีกองเชียร์ของ สโมสรบางกอก เอฟซี ที่นั่งอยู่ฝั่งโซน E ได้จุดพลุแฟร์เฉลิมฉลองชัยชนะขึ้น เจ้าหน้าที่เข้าไประงับเหตุบอกกองเชียร์ให้หยุดจุดไฟและควันจากพลุแฟร์ จึงสงบลง เวลา 20.55 น. ซึ่งก่อนการเข้าสนามทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามได้มีการตรวจค้นกองเชียร์ทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน แต่ก็มีกองเชียร์ทีมเจ้าบ้านที่ลักลอบเอาพลุแฟร์เข้าสนามได้

 

#ผลพิจารณาโทษ

1) ลงโทษกองเชียร์ สโมสรบางกอก เอฟซี จุดพลุในสถานที่จัดการแข่งขัน เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 60,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสรบางกอก เอฟซี ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี เป็นการกระทำความผิดซ้ำ ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 จึงเพิ่มโทษกองเชียร์สโมสรบางกอก เอฟซี ปรับเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 90,000 บาท

 

2) ลงโทษสโมสรบางกอก เอฟซี บกพร่องในการตรวจค้นหรือควบคุมไม่ให้กองเชียร์นำพลุ ประทัด หรือดอกไม้ไฟ เข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขันหรืออัฒจันทร์ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (1) ปรับเงิน 30,000 บาท

 

รวมโทษปรับเงินทั้งหมด 120,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 30,000 บาท

 

2. การแข่งขันฟุตบอลรายการ “ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก” ไทยลีก 1 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 คู่ระหว่าง สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ สโมสรลำพูน วอริเออร์ (จำนวน 3 เหตุการณ์)

 

1) ในนาทีที่ 5 ผู้เล่นหมายเลข 93 Mr.Mahmoud Eid สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เจตนาใช้หัวไหล่และท่อนแขน เข้ามาทำร้ายใส่ผู้เล่นหมายเลข 21 นายทศพร ชูชิน สโมสรลำพูน วอริเออร์ ที่บริเวณศีรษะและลำคอ ทำให้เสียหลักล้มลงและได้รับบาดเจ็บ VAR ได้ทำการตรวจสอบเรียกผู้ตัดสินมา (On-field review) หลังจากผู้ตัดสินได้ทำการตรวจสอบแล้วเห็นว่าเป็นเพียงกรณีใบเหลือง

 

#ผลการพิจารณา

พฤติกรรมของ Mr.Mahmoud Eid สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีลักษณะที่ไม่ใช่เป็นการเจตนาทำร้าย เป็นการชนเพื่อบังหรือกันไม่ให้ไปเล่นลูกบอล ถือว่าเป็นการทำผิดกติกา ข้อ 12 หัวข้อ Foul and Misconduct ต้องให้เตะโทษโดยตรงหากผู้เล่นกระทำผิดในลักษณะที่เป็นการเล่นที่การขาดการไตร่ตรองยั้งคิดและต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ไม่ถึงใบแดง นายอนุสรณ์ หนูแก้ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

 

2) ในนาทีที่ 38 ผู้เล่นหมายเลข 6 นายนิติพงษ์ เสลานนท์ สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้พุ่งเข้าเสียบสกัดใส่บริเวณข้อเท้าของผู้เล่นหมายเลข 32 นายบวร ตาปลา สโมสรลำพูน วอริเออร์ ถึงสองครั้ง จนล้มลงและได้รับบาดเจ็บ ผู้ตัดสินปล่อยให้เกมดำเนินการเล่นต่อ

 

#ผลการพิจารณา

ลงโทษนายอนุสรณ์ หนูแก้ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ เนื่องจากนายนิติพงษ์ เสลานนท์ สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้พุ่งสไลด์เข้าสกัดลูกบอล ทำให้เท้าซ้ายได้ไปปะทะกับเท้าซ้ายของผู้เล่น สโมสรลำพูน วอริเออร์ ในลักษณะเท้าสู่เท้า เป็นการกระทำผิดที่ต้องให้เตะโทษโดยตรงและต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ตามกติกาข้อ 12 หัวข้อ Foul and Misconduct ผู้เล่นขาดการไตร่ตรองยั้งคิดและต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง)

 

 

3) ในนาทีที่ 41 ผู้เล่นหมายเลข 29 Mr.WILLEN MOTA สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เจตนาใช้เท้าย่ำไปยังบริเวณต้นขาส่วนบนของผู้เล่นหมายเลข 17 นายพัชรพล อินทนี สโมสรลำพูน วอริเออร์ จนได้รับบาดเจ็บ VAR ได้ทำการตรวจสอบ เรียกผู้ตัดสินมา (On-field review) หลังจากผู้ตัดสินได้ทำการตรวจสอบแล้วเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงกรณีใบเหลือง

 

#ผลการพิจารณา

 

ในจังหวะที่ล้มลงของ Mr.WILLEN MOTA สโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ยกเท้าขึ้นในลักษณะของการกัน ทำให้ไปถูกบริเวณต้นขาด้านในของผู้เล่นสโมสรลำพูน วอริเออร์ ไม่มีการถีบที่เป็นการเจตนาทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ถือว่าเป็นการเล่นผิดกติกา ข้อ 12 หัวข้อ Foul and Misconduct เป็นการเล่นที่การขาดการไตร่ตรองยั้งคิดและต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ไม่ถึงใบแดง นายอนุสรณ์ หนูแก้ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews