บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังไล่ต้อน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศช้าง เอฟเอ คัพ 2020
การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนามช้างอารีนา ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า ทำศึกบิ๊กแมตช์รับการมาเยือนของคู่รักคู่แค้น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
เริ่มการแข่งครึ่งเวลาแรก กิเลนผยอง ที่มาในเสื้อขาว กางเกงแดง ถุงเท้าแดง เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อน บุกจากขวามาซ้าย ส่วน ปราสาทสายฟ้า ที่มาในเสื้อสีดำ กางเกงสีดำ ถุงเท้าสีเทา บุกจากซ้ายไปขวาของ ช้างอารีนา
นาทีที่ 7 แฟนบอลปราสาทสายฟ้า เกือบได้เฮ ไมคอน มาร์เกวซ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ จักรพันธ์ แก้วพรม หาจังหวะเปิดบอลเข้ามาตรงกลางประตู ทว่าจังหวะเปิดมีผู้เล่นกิเลนผยองล้มตัวบล็อก ทำให้บอลลอยแบบไม่มีน้ำหนัก ลูคัส โรช่า โหม่งบอลทิ้งข้ามคานไปได้ นาทีที่ 12 กิเลนผยอง เกือบได้เฮบ้าง แดร์เลย์ ได้โหม่งบอลเข้าประตูไป
ทว่าผู้ตัดสินได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะออกไปตรวจสอบภาพการแข่งขัน แล้วกลับมาเป่าไม่ให้เป็นประตู เพราะจังหวะก่อนหน้านั้น วิลเลี่ยน พอพพ์ มีการไปทำฟาวล์ใส่ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ในจังหวะก่อนหน้านั้นแล้ว จากนั้นยังไม่มีทีมใดสามารถทำประตูได้ จบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมมย์ ยูไนเต็ด เสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ 0-0
กลับมาเล่นครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 72 จังหวะต่อเนื่องจากนาทีที่ 70 ปราสาทสายฟ้า มาได้จุดโทษหลังจาก นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดมโดนกองหลังทีมเยือนเกี่ยวล้ม ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นจุดโทษ ซามูเอล โรซา รับหน้าที่สังหารไม่พลาดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 ก่อน
นาทีที่ 77 สุภโชค สารชาติ ได้บอลหลุดเดี่ยวไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนเจ้าตัวจะตัดสินใจติงเต็มข้อบอลพุ่งแสกหน้า สมพร ยศ เสยตาข่ายบนหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 เมืองทอง ยูไนเต็ด
จากนั้น ปราสาทสายฟ้า ครองเกมบุกได้เหนือกว่า แต่ก็ไม่อาจจะยิงประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2020
ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ
เชียงราย ยูไนเต็ด2 – 1เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด2 – 1ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี 5 – 1ตราด เอฟซี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news