ชิงดำสนามสุดท้าย! ศึกสองล้อเอเชีย เตรียมเดือดส่งท้ายปีที่ประเทศไทย “ชิพ-แสตมป์” นำทัพนักบิดไทยล่าบัลลังก์แชมป์ 6-8 ธ.ค.นี้
ศึกสองล้อชิงแชมป์แห่งเอเชียสุดยิ่งใหญ่ รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 เตรียมระเบิดความมันส์สนามสุดท้าย ชิงดำตำแหน่งแชมป์ประจำฤดูกาลในทุกรุ่น ขณะ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ควง “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นำทัพนักบิดไทยลงชิงชัย ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ด้าน “บิ๊กแน่น-โชติชนก” ชี้สนามช้างฯ พร้อมต้อนรับดาวบิดดังเอเชีย-ทั่วโลก และถือเป็นงานใหญ่ส่งท้ายปี ก่อนรองรับศึกโมโตจีพีในฤดูกาลหน้า
ไฮไลต์ของสนามสุดท้ายคือการลุ้นทัพนักบิดไทยให้คว้าชัยชนะในบ้านเกิด รวมถึงการคว้าแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้ด้วย โดยในรุ่นใหญ่อย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ รั้งอันดับ 4 มีทั้งสิ้น 128 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง 14 คะแนน
ขณะที่ผู้นำบนตารางแชมเปียนชิพในรุ่นใหญ่ ได้แก่ “ยูกิ คูนิ” นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า มีทั้งสิ้น 142 คะแนน เบียดกันอย่างสูสีกับ “แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์” นักบิดอินโดนีเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท แอสเตโม โดยมีระยะห่างเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ “ฮาฟิซ ซยาห์ริน” อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวมาเลเซีย ตามหลัง 5 คะแนน
ส่วนในคลาสกลางอย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี นักบิดชาวไทย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม เอเชียน อยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เอเชียที่สดใส รั้งจ่าฝูงก่อนเข้าสู่สนามสุดท้าย มีทั้งสิ้น 155 คะแนน เหนือคู่แข่งในอันดับ 2 อย่างโมฮัมหมัด อะเดนันตา พูตร้า นักบิดอินโดนีเซีย 14 คะแนน ส่วน อัซรอย ฮาคีม อานัวร์ นักแข่งมาเลเซียรั้งอันดับ 3 ตามหลัง 33 คะแนน ขณะที่นักบิดดาวรุ่งชาวไทยอย่าง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งท็อปไฟว์ มีทั้งสิ้น 99 คะแนน
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่นเล็กอย่าง เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ยังต้องมาตัดสินที่ประเทศไทยเช่นกัน โดย “เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส” ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม รั้งจ่าฝูงเหนือทีมเมทอย่าง “มูฮัมหมัด เคียนดร้า รามาดิป้า” 10 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “มูฮัมหมัด แฟโรซี” จาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย ตามหลัง 12 คะแนน ขณะที่นักบิดไทยอย่าง “วริทธ์ ทองนพคุณ” และ “ปิยวัฒน์ ประทุมยศ” จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 8 และ 9 มีคนละ 64 คะแนน และ 43 คะแนนตามลำดับ
ด้าน นายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมเต็มขั้น ในการต้อนรับดาวบิดดังจากทั่วเอเชียและทั่วโลกแล้ว รวมทั้งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่อีกหนึ่งงานส่งท้ายปลายปีที่จะมอบเป็บของขวัญให้แฟนความเร็ว ก่อนเข้าสู่ช่วงของการทำกิจกรรมต้อนรับศึกโมโตจีพี ในประเทศไทยในปี 2025 อย่างยิ่งใหญ่ที่สุด
“เชื่อว่าในสนามตัดสินแชมป์นี้จะได้รับความสนใจจากแฟนความเร็วทั่วโลกแน่นอน โดยจากความสำเร็จของการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตตลอดปีที่ผ่านมาของสนามช้างฯ ได้เป็นเครื่องชี้ชัดถึงอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมมอเตอร์สปอร์ตไทยที่พัฒนาอย่างมากทั้งระบบ โดยในส่วนของการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่งนี้ ก็จะเป็นอีกกลไกสำคัญในการยกระดับนักแข่ง ทีมแข่งและบุคลากรต่างๆ รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย และต่อยอดให้ประเทศไทย ให้พัฒนาเป็นศูนย์กลางมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก เป็นหมุดหมายสำคัญบนปฏิทินการแข่งขันที่แฟนความเร็วจากทั่วโลกต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต”
ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้ายจะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม และปิดฉากเรซสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 พร้อมกับพิธีฉลองแชมป์แห่งเอเชียอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย หลังจบการแข่งขันอีกด้วย
โดยในปีนี้ ฝ่ายจัดการแข่งขันเอาใจคอมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ด้วยการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ในประเทศผ่านช่อง PPTV HD36 และทั่วเอเชีย ได้แก่ SPOTV, Star Sports, Astro Arena และ Fox Sports หรือรับชมผ่านทางออนไลน์ได้ที่เพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram
แฟนมอเตอร์สปอร์ตเข้าชมติดขอบสนาม บัตรวีไอพี 1 วัน 1,000 บาท, 2 วัน 1,500 บาท, แกรนด์สแตนด์ 1 วัน 200 บาท, 2 วัน 300 บาท ซื้อบัตรได้แล้วที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://www.allticket.com/event/ARRC2024_Round6
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews