สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ประกาศผลการจัดอันดับโลก ทีมชาติไทย รั้งอันดับ 97 ของโลก อยู่โถ 1 จับสลากเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ประกาศผลการจัดอันดับโลก ประจำเดือน พฤศจิกายน 2567 อย่างเป็นทางการ โดย ทีมชาติไทย รั้งอันดับ 97 ของโลก และอันดับที่ 15 ของทวีปเอเชีย
สำหรับทีมชาติไทย ในเดือนก่อนหน้านี้ อยู่อันดับ 96 ของโลก ก่อนที่จะอุ่นเครื่องเสมอกับ เลบานอน และ สปป.ลาว และมีคะแนนสะสมลดลงมา 3.51 คะแนน รวมเป็น 1228.24 คะแนน
จากผลคะแนนดังกล่าวทำให้ ทีมชาติไทยอยู่อันดับ 97 ของโลก และส่งผลต่อการแบ่งโถของ ศึก เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 นี้ โดย ไทยจะอยู่ในโถ 1 ของการจับสลาก จากการเรียงตามลำดับฟีฟ่า แรงกิ้ง
โปรแกรมต่อไปของ ทีมชาติไทย คือการแข่งขันฟุตบอล อาเซียน คัพ ซึ่งจัดมาทั้งหมด 14 ครั้ง ทีมที่ได้แชมป์มากที่สุด คือ ไทย 7 ครั้ง ตามด้วย สิงคโปร์ 4 ครั้ง, เวียดนาม 2 ครั้ง และ มาเลเซีย 1 ครั้ง
โดยการแข่งขัน ASEAN Mitsibishi Electric Cup 2024 หรือ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา และ ติมอร์ เลสเต มีโปรแกรมการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) ดังนี้
นัดแรก 8 ธันวาคม 2567 ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย เวลา 20.00 น. ที่ ฮัง เดย์ สเตเดียม (เวียดนาม)
นัดที่สอง 14 ธันวาคม 2567 ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย เวลา 20.00 น.ที่ราชมังคลากีฬาสถาน
นัดที่สาม 17 ธันวาคม 2567 สิงคโปร์ พบ ทีมชาติไทย เวลา 19.30 น.ที่ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
นัดที่สี่ 20 ธันวาคม 2567 ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา เวลา 20.00 น.ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
รอบรองชนะเลิศ
เลกแรก : 26-27 ธันวาคม 2567
เลกสอง : 29-30 ธันวาคม 2567
รอบชิงชนะเลิศ
เลกแรก : 2 มกราคม 2568
เลกสอง : 5 มกราคม 2568
ทั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY และ ยูทูป : BG SPORTS
โดยรายการดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์
สำหรับแฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน เกมเหย้าของทีมชาติไทยได้ที่ ได้ที่ https://www.thaiticketmajor.com และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
