“เบนจามิน เดวิส” ขอบคุณทุกแรงสนับสนุน พาผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบาก จนคัมแบ็คทีมชาติไทย ชุดใหญ่
เบนจามิน เดวิส แนวรุกทีมชาติไทย จากสโมสร อุทัยธานี เอฟซี เปิดใจกับการมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 (ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024)
สำหรับ เบน เคยมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่มาแล้ว ในตอนทัวร์นาเมนต์ลุยยุโรป เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2566
“ผมภูมิใจและมีความสุขกับการได้กลับมารับใช้ทีมชาติไทย อีกครั้ง” เบน กล่าว
“แน่นอนว่าผมต้องการทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด เพื่อช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะ และคว้าแชมป์มาครองให้ได้”
“ตอนประกาศรายชื่อ ผมยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังเลย เพราะผมกลัวที่จะผิดหวัง แต่พอมีชื่อจริงๆ ต้องยอมรับว่าผมอดที่จะดีใจไม่ได้”
“เป้าหมายส่วนตัวคงพยายามทำให้ดีที่สุด และช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะมาครองให้ได้ทุกเกม เล่นตามแทกติกโค้ชได้ทั้งหมด ช่วยเหลือทีมให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะยิงประตู, แอสซิสต์ หรือการสร้างโอกาส รวมถึงการเล่นเกมรับ”
“สำหรับเรื่องการปรับตัว ผมเชื่อว่าผมจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากทุกคนในทีม ที่ผ่านมาผมเผชิญหน้ากับการที่ต้องปรับตัวมาตลอด ทั้งกับฟุตบอลไทย กับสโมสร ในช่วงที่ผ่านมา และหลายคนในทีมชาติชุดนี้เป็นคนที่ผมเคยเล่นร่วมกับเขามาแล้วในทีมชาติไทย U23 ทั้งเมื่อช่วงปี 2020 และเมื่อสองปีก่อน ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“อีกจุดที่ผมมองคือ ผมมีเพื่อที่เป็นลูกครึ่งจำนวนมากในทีมชุดนี้ หลายคนผมมีโอกาสได้คุย หรือรู้จักกับเขามาก่อน และคิดว่าทุกคนพร้อมจะช่วยเหลือผม เช่นเดียวกับตัวผมที่พร้อมจะช่วยเหลือพวกเขา ทั้งในการซ้อมรวมถึงการแข่งขัน”
“ช่วงเวลา 3 ปี กับ ฟุตบอลไทย ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย ไม่ว่าจะกับ การท่าเรือ เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี และกับ อุทัยธานี เอฟซี ซึ่งแต่ละสโมสรพยายามช่วยเหลือตัวผมอย่างมาก ผมอยากขอบคุณทุกคน ทั้งโค้ชที่ผมเคยร่วมงาน เพื่อนร่วมทีม ที่ทำให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ผมคิดว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวผมได้รับบทเรียนเยอะมาก จนทำให้ผมกลายมาเป็นผมในวันนี้”
“ผมเองพร้อมทำตามแผน หรือ ความต้องการของโค้ชทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกมรับที่ตัวผมเคยถูกวิจารณ์ ซึ่งที่ผ่านมา ผมพยายามพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเอาชนะคำวิจารณ์เหล่านั้น ผมพยายามทำความเข้าใจ ทั้งเรื่องของจังหวะ พื้นที่ การยืนตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เกมรุกหรือเกมรับ ผมคิดว่าผมพัฒนาขึ้นมา”
“การย้ายมาเล่นกับอุทัยธานี คือจุดเปลี่ยนสำคัญของผม เพราะที่นี่คือทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ในเวลานั้น ผมรู้สึกว่าต้องแสดงความกระหายออกมามากกว่านี้ โดยเฉพาะการที่ต้องพยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ผมคิดว่าความคิดของผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในเรื่องของความกระหายที่จะพัฒนาตัวเอง”
“ผมอยากขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่คอยสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือตัวผมมาตลอดทั้งผ่านข้อความ รวมถึงเวลาไปเล่นที่สนามฟุตบอลแห่งไหนก็ตาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมรู้สึกเป็นเกียรติ แน่นอนว่าผมจะพยายามทำเต็มที่ ทุ่มเททั้งร่างกายและหัวใจเพื่อทีมชาติไทย และตอบแทนทุกคนที่สนับสนุนตัวผมครับ”
สำหรับ แฟนบอลที่สนใจ สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน เกมเหย้าของทีมชาติไทยได้ที่ ได้ที่ https://bit.ly/3V9txcR และจุดจำหน่ายไทยทิคเก็ตเมเจอร์ สาขาหลัก 11 สาขา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
การแข่งขันฟุตบอล อาเซียน คัพ จัดมาทั้งหมด 14 ครั้ง ทีมที่ได้แชมป์มากที่สุด คือ ไทย 7 ครั้ง ตามด้วย สิงคโปร์ 4 ครั้ง, เวียดนาม 2 ครั้ง และ มาเลเซีย 1 ครั้ง โดยการแข่งขัน ASEAN Mitsibishi Electric Cup 2024 หรือ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา และ ติมอร์ เลสเต มีโปรแกรมการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) ดังนี้
#นัดแรก 🗓 8 ธันวาคม 2567
🇹🇱 ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย 🇹🇭 |⏰ 20.00 น. | 🏟️ ฮัง เดย์ สเตเดียม (เวียดนาม)
#นัดที่สอง 🗓 14 ธันวาคม 2567
🇹🇭 ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย 🇲🇾 | ⏰ 20.00 น. | 🏟️ ราชมังคลากีฬาสถาน
#นัดที่สาม 🗓 17 ธันวาคม 2567
สิงคโปร์ 🇸🇬 พบ 🇹🇭 ทีมชาติไทย 🇹🇭 | ⏰ 19.30 น. | 🏟️ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์
#นัดที่สี่ 🗓 20 ธันวาคม 2567
🇹🇭 ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา 🇰🇭 | ⏰ 20.00 น. | 🏟️ ราชมังคลากีฬาสถาน
#รอบรองชนะเลิศ
เลกแรก : 26-27 ธันวาคม 2567
เลกสอง : 29-30 ธันวาคม 2567
#รอบชิงชนะเลิศ
เลกแรก : 2 มกราคม 2568
เลกสอง : 5 มกราคม 2568
📺ถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, AIS PLAY และ ยูทูป : BG SPORTS
โดยรายการดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในช่วงปฏิทินฟีฟ่าเดย์
#FAThailand #ฟุตบอลทีมชาติไทย #ช้างศึก #บอลไทย #AFFChampionship #ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน2024 #ASEANMitsubishiElectricCup2024 #mitsubishielectriccup2024
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews