แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 8 คะแนน หลังเปิดบ้านชนะ เบิร์นลีย์ ไปได้ 3-1
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ระหว่าง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ “เดอะ คลาเรตส์” เบิร์นลีย์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกให้ เมสัน กรีนวู้ด เล่นหน้าเป้า เอดินสัน คาวานี่ ได้พักเป็นสำรอง ส่วน เบิร์นลีย์ นำมาโดย คริส วู้ด
ผลปรากฏว่า ครึ่งแรกมาแค่นาทีเดียว เบิร์นลีย์ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ แมทธิว โลว์ตัน เปิดบอลยาวขึ้นมาให้ คริส วูด โหม่งเข่าไป แต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว จากนั้นนาทีที่ 10 แมนยูฯ ได้ลุ้นบ้าง อารอน วาน บิสซากา เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ พอล ป็อกบา ขึ้นโหม่ง แต่ ไบลีย์ พีค็อก-ฟาร์เรลล์ ปัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด และถัดมา 2 นาที เบิร์นลีย์ ได้ลุ้นอีกครั้ง คริส วูด ยิงจากนอกกรอบ แต่ไม่ผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน ถึงนาทีที่ 31 เบิร์นลีย์ เกือบได้เฮ แมทธิว โลว์ตัน เปิดบอลเข้าเขตโทษ คริส วูด โหม่งหลุดเสาออกไป ต่อมานาทีที่ 42 คริส วูด ได้วอลเลย์ตามนำในเขตโทษ บอลหลุดเสาแรกไปนิดเดียว เเละจบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเสมอ เบิร์นลีย์ อยู่ 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 48 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มารืคัส แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าเขตโทษฝั่งว้ายก่อนจ่ายเข้ากลาง บรุโน เฟอร์นันเดส ปล่อยบอลลอดขา และเป็น เมสัน กรีนวูด วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 50 เบิร์นลีย์ ตีเสมอเป็น 1-1 อย่างรวดเร็ว เมือ แอชลีย์ เวสต์วูด เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งว้ายเข้ากรอบเขตโทษ เจมส์ ทาร์คอฟสกี โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม
เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 แมนยูฯ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา เปิดบอลไปฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งแฉลบเข้าประตุไปอย่างเฉียบขาดและในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 แมนยูฯ นำห่าง 3-1 บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ผ่านเข้ากลางให้ เอดินสัน คาวานี ยิงเข้าไป จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เบิร์นลีย์ ไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนน รั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 8 แต้ม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news