Home
|
ข่าว

ช้างศึกฉีดวัคซีนโควิดก่อนลุยคัดบอลโลก

Featured Image
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประสานหน่วยงานรัฐ ฉีดวัคซีนโควิด-19 แข้งช้างศึก-สต๊าฟทีมชาติไทย เตรียมพร้อมทำศึกคัดบอลโลกที่ยูเออี

ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐบาล เพื่อฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้แก่นักกีฬาทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และทีมงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ในอีก 3 นัดที่เหลือ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่าง วันที่ วันที่ 3-15 มิถุนายน 2564 นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 นักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช และเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโควิด-19 เข็มแรก ณ สถาบันบําราศนราดูร ถนนติวานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะฉีดต่อเนื่องเข็มที่สอง อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์

โดย นักฟุตบอลชายทีมชาติไทย มีโปรแกรมเข้าเก็บตัวฝึกซ้อม ชุดแรกในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ คือ นักกีฬากลุ่มแรก ที่ไม่ได้ลงทำการแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ 2020 ซึ่งจะเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่กรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ในวันที่ 30 เมษายน และเข้าแคมป์ ในวันที่ 3 พฤษภาคม

ส่วน กลุ่มที่สอง นักกีฬาที่มาจาก 4 สโมสรที่ลงแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ 2020 ประกอบด้วย ชลบุรี เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันที่ 7 พฤษภาคม และเข้าแคมป์ในวันที่ 10 พฤษภาคม

สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปยูเออี ในวันที่ 21 พฤษภาคม และมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด ในวันที่ 25 พฤษภาคม และ 29 พฤษภาคม ก่อนทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 โดยมีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้

วันที่ 3 มิถุนายน 2564
– ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย
– ยูเออี พบ มาเลเซีย

วันที่ 7 มิถุนายน 2564
– อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม
– ทีมชาติไทย พบ ยูเออี

วันที่ 11 มิถุนายน 2564
– อินโดนีเซีย พบ ยูเออี
– มาเลเซีย พบ เวียดนาม

วันที่ 15 มิถุนายน 2564
– เวียดนาม พบ ยูเออี
– มาเลเซีย พบ ทีมชาติไทย

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube