Cyber Elite ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตร Fortinet ชูบริการ FirewallGuard ผสานความเชี่ยวชาญ 2 องค์กร ยกระดับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์บนเทคโนโลยี Firewall ด้วยแนวคิด “Double The Expertise, Double The Protection”
วันที่ 12 กันยายน 2567 ดร. ศุภกร กังพิศดาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเบอร์ อีลีท จำกัด (Cyber Elite) ในกลุ่มเบญจจินดา (BCG) กล่าวว่า การร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่าง Cyber Elite และ Fortinet ในครั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กรมีวิสัยทัศน์ และความต้องการตรงกัน ในการสร้างโลกที่ปลอดจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยร่วมมือกัน บริการ Firewall Guard ซึ่งเป็นบริการที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญระหว่าง Cyber Elite และ Fortinet ในการยกระดับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์บนเทคโนโลยี Fire wall ด้วยแนวคิด “Double The Expertise ,Double The Protection” เพื่อเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านผู้เชี่ยวชาญ แบบ 2 ระดับ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญจาก Fortinet เจ้าของเทคโนโลยี Forti Gate ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของบริการนี้ และผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการจัดการค้านความปลอดภัยไซเบอร์อย่าง Cyber Elite
โดยการเป็นพันธมิตรร่วมกับ Fortinet ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในการปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์อันดับต้นๆของโลกนั้น เนื่องจาก Fortinet มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายและครอบคลุมในทุกความต้องการขององค์กร อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สามารถใช้งานเป็น Security Fabric เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เป็นไปแบบครบวงจรมากขึ้น
“การร่วมมือให้บริการ FirewallGuard ในครั้งนี้ เกิดจากการเล็งเห็นถึงช่องว่างของการเข้าถึงความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรขนาดเล็ก ที่มีงบประมาณต่อปีค่อนข้างน้อย อีกทั้งองค์กรหลายแห่งยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ตรงกันของทั้ง 2 องค์กร ในการส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้านั้น จึงเกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น เพื่อผลักดันบริการและ ยกระดับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้ดียิ่งขึ้น ผ่านเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC27001:2013 และ ISO/IEC27701:2019 ที่จะช่วยให้การเฝ้าระวังเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ
และมีประสิทธิผลสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งบริการนี้จะตัวช่วยให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาด้านต้นทุน ด้านการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรได้ในอนาคต” ดร.ศุภกร กล่าว โดยจุดแข็งของบริการ FirewallGuard มีดังนี้
Double The Expertise: บริการที่ดำเนินการ โดยผู้เชี่ยวชาญ 2 ระดับ เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง ตรวจสอบและคัดกรองให้กับลูกค้า เพื่อลดจำนวนข้อมูลที่ไม่จำเป็น (Noise) หรือข้อมูลแจ้งเตือนที่ผิดพลาด (False Positive) และให้การเฝ้าระวังเป็น ไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Simple Onboarding Process: การเตรียมความพร้อมในการใช้งานระบบนั้น ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน และสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที
Automation & AI-Powered Threat Detection: ขั้นตอนในการเฝ้าระวังและตรวจจับของบริการโดยวิธีออโตเมชันเข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามผสานกับการทำงานของ AI ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจจับภัยคุกคามที่ซับซ้อน ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
Reduced False Positive: การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อลดการเกิด False Positive ให้มากที่สุด พร้อมทั้งสามารถแจ้งวิธีการแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Global Threat Intelligence: การใช้ฐานข้อมูลภัยคุกคามขนาดใหญ่หรือที่รู้จักในนามของ
ForiGuand Labs ที่มีข้อมูลภัยคุกคามไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านเหตุการณ์ต่อวัน ช่วยให้บริการ
FirewallGuard สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นใหม่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
Scalability: FirewallGuard สามารถปรับขนาดตามความต้องการขององค์กรได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งองค์กรขนาดเล็กและองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้สามารถจัดการกับปริมาณข้อมูลและเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้นได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ
ดร.ศุภกร กล่าวว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในการทำตลาดครั้งนี้ เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง ทั้งกลุ่มลูกค้ารายเดิมที่ใช้งาน FortiGate Firewall ถือครอง FortiGate รุ่น 40F-80F หรือกำลังมองหาวิธีในการทำ Sccurity Uplift ให้กับองค์กรด้วยงบประมาณที่เหมาะสม และกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาเทคโนโลยี Firewall ในการเลือกใช้บริการ
ด้าน คุณณภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟอร์ติเน็ต ประเทศไทย (Fortinet Thailand) กล่าวว่า ผู้บริหาร Fortinet Thailand กล่าวว่า Fortinet เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Cyber Elite ในการเป็นพันธมิตรร่วมกันให้บริการ FirewallGuard ซึ่ง Cyber Elite มีความพร้อมในด้านทีมงานผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ สามารถให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาที่ซับช้อบช้อนได้อย่างตรงจุด มีบริการที่ครอบคลุมทุกมิติของความมั่นคงทางไซเบอร์ เข้าใจถึงความต้องการและความท้าทายเฉพาะของแต่ละธุรกิจ อีกทั้งสามารถออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสม รวมถึงการปรับรูปแบบการให้บริการให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กรได้
นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอีกด้วย ส่วนกลุ่มเป้าหมายเนื่องจาก fortinet อยู่ในตลาดประเทศไทยมานานกว่า10ปีแล้ว และฐานลูกค้ามีหลายพันรายถือว่าเป็นลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นในฐานลูกค้าที่มีจำนวนมากนั้น จึงอยากได้พาร์ทเนอร์ที่มาดูแลลูกค้า ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายแรกที่ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นคือ กลุ่มลูกค้าใช้ Firewall ที่มีจำนวนค่อยข้างเยอะ ส่วนกลุ่มลูกค้าฐานที่สองเป็นลูกค้าที่อยู่ขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก อาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มองหาเรื่องการบริหารต้นทุนที่มีจำนวน เช่นมีงบประมาณในการลงทุนแบบจำกัด และมองหาบริการครอบคลุม รวมถึงองค์กรที่มีข้อจำกัดเรื่องบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขาดแคลน
ดังนั้นลูกค้าที่เลือกใช้บริการจะได้รับประโยชน์อย่างแรกคือ เรื่องการบริหารต้นทุน เพราะการร่วมมือกันของทั้งสององค์กรในครั้งนี้ มีการทำงานทั้งด้านการให้บริการ และแทนที่องค์กรต่างๆจะลงทุนเองโดยใช้งบประมาณก้อนใหญ่ แต่จะเป็นการลงทุนแบบใช้บริการบวกกับจ่ายเงินไปเรื่อยๆ และยังมีแพ็คเกจเรื่องผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยดูแลให้บริการได้อย่างครอบคลุม ดังนั้นลูกค้าจึงมมั่นใจได้ว่ามีความคุ้มทุนแน่นอน
ทางด้าน ดร.รัฐิติ์พงษ์ พุทธเจริญ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิศวะกรรมระบบ Fortinet Thailand กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้บริการ firewallGuard ว่า firewall เป็นอุปกรณ์ด่านหน้าสำหรับดูแลรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ชื่อเป็นกำแพงแต่เปรียบเหมือนประตูเข้าบ้านที่จะคอยกลั่นกรองสิ่งที่ไม่ดี ป้องกันไม่ให้ผ่านเข้ามา โดยพฤติกรรมของผู้ใช้ firewall จะมีหลายรูปแบบ ปกติหากติดตั้งแล้ว ทางผู้แลจะเข้าไปกำหนด policy ว่าจะให้ผ่านเข้าออกตรงไหน ใครผ่านเข้าออกได้บ้าง หรือจะให้ User ไปใช้อินเตอร์เน็ตภายนอกอย่างไร จะกำหนด Policy ในเรื่องของการควบคุม รวมทั้งในเรื่องความปลอดภัย เช่น จะต้องมีการแสแกนไวรัสหรือไม่ จะป้องกันในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งการกำหนดPolicyจะเป็นการทำงานในเบื้องต้น แต่อีกส่วนคือการที่จะรับรู้ว่ามีภัยคุกคามเกิดขึ้นหรือไม่ คนที่ดูแล Firewall ก็จะทำเรื่องนี้ ซึ่งบุคลากรที่จะมาดูแลจะทำการตรวจสอบว่าลูกค้าถูกโจมตีหรือมีภัยคุกคามเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามเสียหาย
สำหรับ FirewallGuard จะเป็นการทำงานร่วมกันของ Cyber Elite และ Fortinet จะมีความแตกต่างจากบริการอื่นๆเพราะใช้แฟลตฟอร์มระดับโลก ลูกค้าที่ใช้บริการจะมีแฟลตฟอร์มเข้ามาซับพอร์ตทำการตรวจสอบว่ามีภัยคุกคามเกิดขึ้นหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร โดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทำให้การแก้ไขทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่าการป้องกันภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่มีวิธีไหนสามารถทำได้แบบ 100% แต่ตัว FirewalGuard จะเข้ามาอุดช่องโหว่ให้ใกล้100%มากขึ้น และช่วยตอบสนองต่อภัยคุกคามได้รวดเร็วมากขึ้น ทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการเกิดความสบายใจอุ่นในใจการให้บริการที่มีการผสมผสานระหว่างองค์กรระดับประเทศของไทยและแฟลตฟอร์มระดับโลกเข้าด้วยกัน
ขณะที่ คุณภาสกร คชพันธุ์สุนทร Head of Technology Unit บริษัท ไซเบอร์ อีลีท จำกัด กล่าวว่า ในแต่ละวันจะเจอกับภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นหากมีกำแพงที่แข็งแรงอย่าง Fortinet ทาง Cyber Elite ก็จะเข้าไปปรับจูนให้การป้องกันเข้าใกล้100%มากที่สุด ส่วนวิธีการทำงานร่วมกันจะมองคุณสมบัติทั้งสองส่วนร่วมกัน โดย Cyber Elite มีทีมที่แข็งแกร่งที่ใช้บริการจัดการเรื่องความเสี่ยงของภัยคุกคามทางไซเบอร์ ส่วน Fortinet มีเรื่องของเทคโนโลยีระดับโลก เมื่อนำทั้งสองส่วนมาประกอบกัน โดย Fortinet ให้ผลที่เกี่ยวกับการโจมตี ส่วนทาง Cyber Elite ก็จะขยายผลต่อและส่งต่อให้กับลูกค้า แนะนำลูกค้า เช่น บางเคสที่ลูกค้าเจอปัญหาก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบและนำผลนั้นมาแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าเจอกับอะไร ส่งผลอย่างไรและต้องป้องกันอย่างไร จะต้องปิดช่องโหว่วตรงไหนบ้าง โดยย้ำว่าในการตรวจสอบและการป้องกันภัยทางไซเบอร์สามารถรับมือและแก้ไขได้ไม่ว่าจะมีการโจมตีจากในประเทศหรือจากประเทศอื่นๆทั่วโลก
ทั้งนี้ Cyber Elite และ Fortinet มีความเชื่อมั่นว่าในอนาคตเทคโนโลยี FirewallGuard จะสามารถเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดปัญหาจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ทั้งองค์กรขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
