ข่าวต้นชั่วโมง 10.00 น.
นายกฯ ย้ำ 3 ช่องทางการลงทะเบียนฉีดวัคซีน ปรับวอร์คอินเป็นลงทะเบียน On-site เพิ่มฉีดให้กลุ่มคนทำงานในระบบประกันสังคมให้เร็วขึ้น
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการเน้นย้ำให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีนที่รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีแผนการ
กระจายวัคซีน 3 ช่องทาง คือ
1.ระบบหมอพร้อม ซึ่งที่ผ่านมาผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคลงทะเบียนแล้ว 7.4 ล้านคน และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 31 พ.ค.นี้
2. การลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือ On-site Registration ช่องทางนี้ปรับจากการเรียกว่า วอร์คอิน(Walk in) อาจเกิดความเข้าใจผิดว่าทุกคนที่เดินทางไปจะได้ฉีดในวันนั้น จนอาจเกิดปัญหาตามมาได้แต่การลงทะเบียน ณ จุดบริการ จะมีระบบรองรับและแจ้งประชาชนเมื่อเดินทางไปลงทะเบียนว่า มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ ณ จุดบริการในวันนั้นหรือไม่ หากพร้อมฉีดแต่วัคซีนไม่พอ ก็สามารถทำการลงทะเบียน เพื่อนัดฉีดในวันอื่นได้ และย้ำว่าช่องทางนี้เป็นการบริการเสริม สำหรับในพื้นที่ กทม.ได้มีการกระจายจุดบริการวัคซีนในโรงพยาบาล สถานพยาบาล และหน่วยงาน จำนวน 231 แห่ง และสถานที่นอกโรงพยาบาลอีก 25 แห่ง
ส่วนช่องทางที่ 3 การจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเฉพาะ หรือการกระจายวัคซีนเชิงยุทธศาสตร์ เน้นจัดสรรวัคซีนไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ หรือมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต เพื่อให้การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้เตรียมการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ถ้าหากในแต่ละจุดที่บริการ มีวัคซีนเพียงพอในแต่ละวัน และมีวัคซีนสำรองเนื่องจากมีคนที่นัดแล้วแต่ไม่ได้มา รัฐบาลก็มีแผนในการเปิดการฉีดวัคซีนแบบวอร์คอินได้ แต่เนื่องจากสถานะการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม เป็นสาเหตุให้นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องตัดสินใจปรับแผน เพื่อให้ทันสถานการณ์ โดยส่วนบริการหลักยังเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม และการวอร์คอินจะเป็นการบริการเสริมในช่วงนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news