Home
|
คลิปข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง 09.00 น.

เช้าวันแรก WFH 100% ถ.รามคำแหง มีนบุรี มุ่งหน้าแยกลำสำลี พบรถปริมาณน้อยสัญจรได้คล่องตัว แม้เป็นจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ขณะ ปลัด สปน.สั่ง ขรก. work from home 99% ถึง 31 กค.

ฝนที่ตกลงมาเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังผิวการจราจร บริเวณรามคำแหง 24 ตั้งแต่แยก 12-16 ทั้ง 2 ช่องทาง ระยะทางประมาณ 200 เมตร ส่งผลให้ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นที่ลุ่มต่ำ เมื่อเกิดฝนตกหนักมักจะเกิดน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง และค่อยข้างระบายช้ากว่าจุดอื่น

โดยในช่วงเช้าวันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ของกรุงเทพมหานคร มาเก็บกวาดถนนและเก็บเศษขยะออกจากท่อระบายน้ำ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีกประมาณ 1 -2 ชม. น้ำจะระบายออกหมด ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นวันแรกที่การประกาศห้ามเดินทางออกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิวช่วงเวลา 21.00-03.00 น.ในพื้นที่ 10 จว. รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการขอความร่วมมือทำงานที่บ้านหรือ WFH เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แบบ100% มีผลวันแรก

จากการสังเกตพบว่า ถนนรามคำแหงในช่วงเช้า ปริมาณรถค่อยข้างน้อย และไม่พบปัญหาการจราจรติดขัดแต่อย่างใด ขณะที่ร้านขายกับข้าวและน้ำดื่มหน้ารามคำแหง ฝั่งข้ามบิ๊กซี หลายร้านได้ปิดชั่วคราว แต่ก็ยังมีบางร้านที่เปิด แต่ไม่คึกคักมากนัก ประกอบกับมีฝนตกลงมาแต่เช้า ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่ออกมาจับจ่ายซื้อของ

อย่างไรก็ดี จากการสังเกตพบว่าประชาชนที่ออกมาด้านนอกยังคงสวมหน้ากากอนามัยเกือบ 100% และเลือกที่จะสวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์(สีฟ้า)มากกว่าหน้ากากผ้าธรรมดา

ส่วนอีกจุดผู้สื่อข่าวสำรวจเส้นทางการสัญจรของประชาชน บนถนนรามคำแหง จากมีนบุรีมุ่งหน้าไปยัง แยกลำสำลีที่ปกติถนนสายนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ช่วงเช้าจะมีรถปริมาณมากจากเขตมีนบุรีมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ ประกอบกับมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนสายสีมีปัญหารถติด แต่ในเช้าวันนี้หลังจากมีมาตรการ work from home แบบเต็มรูปแบบ 100% พบว่า มีปริมาณรถน้อยและรถสามารถเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่องสลับกับทำความเร็วได้บางช่วง ส่วนช่วงเขตการก่อสร้างรถไฟฟ้านั้นพบว่ามีการชะลอตัวเล็กน้อยแต่ไม่ส่งผลกระทบให้รถติดขัด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube