นายกฯ ยอมรับรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจและโควิดล่าช้า เพราะมีขั้นตอนการทำงานเป็นระบบ ขอไม่ฟังสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ ด้อยค่า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง ซึ่งเป็นการชี้แจงเป็นครั้งที่สองของวันนี้ (1 กันยายน) โดยยืนต่อการทำงานของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาทั้งการเกษตรรวมถึงวิกฤตโรคระบาด โควิด-19 สำหรับวิกฤตโควิดที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก สร้างผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ยอมรับว่ามีความล่าช้า เพราะมีขั้นตอนการทำงานเป็นระบบ การกำหนดมาตรการการป้องกันโรคและลดการแพร่ระบาดตนต้องฟังแพทย์ และหมอ ในฐานะผู้อยู่หน้างาน ทั้งนี้ ยอมรับว่าการท่องเที่ยวมีผลกระทบมาก โดยปี 2564 คาดว่า จะมียอดนักท่องเที่ยวต่ำกว่าล้านคน ขออย่าชุมนุมที่ภูเก็ต เพราะเหมือนกับว่าไม่อยากทำให้ดี โดยตนไม่ต้องการให้เกิดการนำเชื้อแพร่ระบาดที่ จ.ภูเก็ต ส่วนที่กล่าวหาว่าตนเอื้อประโยชน์นายทุน ยืนยันว่า ไม่เคย ไม่มีเจรจานอกรอบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงโดยอ้างถึงรายงานของธนาคารโลก และรายงานกองทุนไอเอ็มเอฟว่า ได้ชื่นชมประเทศไทยที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้แบบก้าวกระโดด และระดับหนี้สาธารณะของไทยรักษาไว้ที่ 60% แต่ประเทศอื่นทั่วโลกอยู่ที่ 99% สำหรับการกู้เงินของรัฐบาล ยอมรับว่า ในประวัติศาตร์ไทย ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่ช่วยประชาชนแบบนี้ ไม่มีผู้นำคนไหนที่ยอมถูกต่อว่า กู้เงินเก่ง และนำเงินใส่มือประชาชน มาถึง 42.5 ล้านคน คือ ครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศและยังช่วยต่อเนื่อง หากไม่เพียงพอ ต้องเติมไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ตนจะไม่ฟังสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ ด้อยค่า ดูถูกเหยียดหยาม เพราะไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งการอภิปรายขอให้ระวัง ต้องใช้วิธีการใหม่ ไม่ใช่ด้อยค่า หรือกระทบกระทั่ง หากต้องการปฏิรูปการเมือง วันนี้ประชาชนเชื่อมั่นกับระบบการเมืองและมาโดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ฉบับเดียวกับ ส.ส. ดังนั้น อย่าอ้างว่าเอื้อประโยชน์ เพราะตนไม่ต้องการ
จากนั้น นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิ์ประท้วงว่า นายกรัฐมนตรีโกหก เพราะบอกว่าหลังรัฐประหารจะอยู่ไม่นาน แล้วที่บอกว่า หากใครมีปัญหาให้เขียนจดหมายถึงท่าน ตนขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงกระทู้ถามสดในสภาฯ ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news