“จุรินทร์”เมิน พปชร.เตรียมจัดทัพเลือกตั้งชู”บิ๊กตู่”นั่งนายกฯ ชี้เป็นไปตาม รธน.ไม่ตอบควรสังกัดพรรคหรือไม่ ยันคืนอำนาจ รมต.ไม่มีผลกระทบ ไม่มีนัยต่อการทำงาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ที่จังหวัดนนทบุรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ที่มีกลุ่มมวลชนออกมาชุมนุมต่อต้านและใช้ความรุนแรง เข้ารุมปาสิ่งของใส่รถทีมงาน โดยตนเคยย้ำว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลยังต้องแก้ปัญหาหลายด้านทั้งเศรษฐกิจ ปัญหาโควิด และการเมือง ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน นายกรัฐมนตรีจึงต้องทำงานหนักและดูว่าต้องแก้ปัญหาทุกอย่างไปพร้อมกันอย่างไร
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ยังมองว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ จัดทัพเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมตั้งเป้าจะได้ ส.ส. 150-200 ที่นั่ง และประกาศชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยนั้น เป็นสิทธิ์ที่พรรคการเมืองแต่ละพรรค จะตั้งเป้า และเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ตามรัฐธรรมนูญ แต่พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ยังไม่จำเป็นที่ต้องประกาศเป้าหมายตอนนี้ แต่ควรมุ่งมั่น ขยันทำงาน ให้เป็นรูปธรรม คือ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น พร้อมไม่ขอตอบว่า นายกรัฐมนตรี ควรจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ ตนไม่มีความเห็น เพราะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาว่าจะเข้าร่วมสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่เช่นกัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศยกเลิกและคืนอำนาจหน้าให้รัฐมนตรีในการแก้ปัญหาโควิดรวม 31 ฉบับ โดยย้ำว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ผลจึงไม่ต่าง และไม่รู้สึกว่ามีนัยอะไรต่อการทำงาน และรัฐมนตรีทุกคน ก็ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ส่วนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ของต่างประเทศหรือไม่ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายอย่างไร มีเส้นกำหนดเปิดประเทศ 120 วันเหมือนเดิมหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นการเริ่มต้นแล้ว แต่ตอบไม่ได้ว่าทั้งประเทศจะเป็นไปตามเป้าเดิมหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาในหลายมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ และ สาธารณสุข เช่นพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเปิดได้เมื่อใด เพราะต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ขณะการตั้งศูนย์อำนวยการโรคติดต่อแห่งชาติ หรือ ศรช. ขึ้นมา แทน ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค. ยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบรัฐมนตรีทั้งคณะเกี่ยวกับการบริหารโควิดและอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ ส่วนตัว คิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะการอภิปรายทุกครั้งฝ่ายค้านก็ยื่นทุกครั้ง เมื่อได้ประกาศไปแล้ว หากประกาศแล้ว ไม่ยื่น กลัวว่าจะเสียชื่อ แต่จะมีน้ำหนักพอหรือไม่ ป.ป.ช. จะเป็นผู้พิจารณา แต่สำหรับตนเองมองว่า บางเรื่องไม่มีน้ำหนักมากพอ เช่น กรณีของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้ตอบและชี้แจงในสภาฯ ไปแล้วอย่างชัดเจน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news