ข่าวต้นชั่วโมง 18.00 น.
ศูนย์ปราบปรามการแข่งรถ แถลง จับผู้ต้องหากว่า 3,000 ราย คดีพรบ.จราจรกว่า 1.2 ล้านคดี พร้อมยึดรถของกลาง กว่า 3.2 แสนคัน
วันนี้ (10 ต.ค. 64) เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปข.ตร.) แถลงถึงผลงานการปราบปรามการแข่งรถในทางอย่างต่อเนื่อง ว่า สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางฯ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง กว่า 1,000,000 ราย
โดยจับกุมผู้ต้องหาในข้อหาแข่งรถฯและขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ กว่า 3,000 ราย สนับสนุนให้มีการแข่งรถในทางหรือกองเชียร์ กว่า 800 ราย ดำเนินคดีกับพ่อแม่ผู้ปกครองตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และทำทัณฑ์บนผู้ปกครอง กว่า 40,000 ราย จับกุมร้านแต่งรถซิ่ง กว่า 1,000 ร้าน ความผิดตามพ.ร.บ.จราจรฯ กว่า 1,201,288 ราย และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลาง กว่า 320,973 คัน
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียนปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องที่สายด่วน 1599 หรือ 191 ซึ่งอัตราการรับแจ้งเหตุทั่วประเทศลดลงกว่า 90% และนำบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมาทำประวัติบันทึกลงในระบบ จำนวนกว่า 157,548 ราย มีการปฏิบัติการเชิงรุกร่วมมือกับ Youtuber จัดทำคลิปวีดีโอให้ผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเลิกพฤติกรรมแข่งรถในทางสาธารณะ จัดโครงการ “เปิดโรงเรียนเปิดโรงรถ” ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทางกฎหมายกับนักเรียนนักศึกษา สร้างเครือข่ายสายข่าวแจ้งเบาะแสในทุกพื้นที่เสี่ยง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบเฝ้าติดตามทางโซเชียลมีเดียถึงการร้องเรียนเรื่องการแข่งรถในทาง พร้อมนำเทคโนโลยีกล้อง CCTV มาใช้ในการสืบสวนติดตามมาดำเนินคดีทั้งสิ้น 241 คดี ผู้ต้องหา 283 ราย ยึดรถของกลางตามคำพิพากษาศาล 45 คัน
อีกทั้งยังผลักดันแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) เรื่องความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง ส่วนของการรวมกลุ่มมั่วสุมในทางหรือสาธารณสถานใกล้ทางด้วยรถตั้งแต่ 2 คันขึ้นไป โดยมีพฤติการณ์ที่จะแข่งรถให้ถือเป็นความผิดฐาน “พยายามแข่งรถในทาง” เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุได้
ทั้งนี้ ศปข.ตร. ได้จัดหาเงินกองทุนจำนวน 4 แสนบาท เพื่อตั้งเงินรางวัลให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องจนนำไปสู่การจับกุมได้ โดยมีเงินรางวัลนำจับรายละ 3,000 บาท ด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news