“วิโรจน์” เผยก้าวไกลเห็นด้วย เปิดเรียน On-Site แต่ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม แนะปรับหลักสูตรเรียน Online ต้องมีนโยบายคุมปริมาณการบ้านที่จริงจัง
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ยืนยันพรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการเปิดเรียนแบบ On-Site เนื่องจากมีงานวิจัยที่ประเทศญี่ปุ่นที่ชื่อว่า No Causal Effect of School Closures in Japan on the Spread of COVID-19 in Spring 2020 ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Medicine ระบุว่า การปิดโรงเรียนไม่ได้มีผลต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของนักเรียน และความสบายใจของผู้ปกครอง ควรปรุงหลักเกณฑ์ให้รัดกุม ภายใต้เงื่อนไขที่ปฏิบัติได้ไม่ตึงตัวหรือหย่อนเกินไป ดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้ครูและบุคลากรในทุกพื้นที่ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ร้อยละ 85 ขึ้นไป รวมถึงครูผู้สอนที่ใกล้ชิดนักเรียนต้องฉีดวัคซีน 2 เข็มครบทุกคน ครูที่ฉีดวัคซีน Sinovac หรือวัคซีนเชื้อตาย แม้ว่าจะฉีดครบ 2 เข็มแล้ว ควรได้รับการฉีดเข็มที่ 3 เป็นบูสเตอร์โดสด้วย
2. เร่งรณรงค์การฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพให้กับนักเรียน ภายใต้คำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์, 3. งดพิธีและกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของนักเรียนในที่แออัด 4. หากนักเรียนเป็นไข้ หรือป่วย ให้พักรักษาตัวที่บ้าน หากพบนักเรียนติดเชื้อให้ตรวจ ATK นักเรียนที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด
5. มีการตรวจ ATK กับครู และบุคลากรของโรงเรียนทุก 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการตรวจ ATK ให้กับโรงเรียน, 6.กระทรวงศึกษาธิการ ควรเป็นผู้ผลิตหลักสูตรการเรียนการสอนแบบ Online พร้อมเอกสารประกอบการสอนต่างๆ ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า DLIT หรือ DLTIV เพื่อให้นักเรียนทุกโรงเรียนใช้เรียนได้ ไม่ควรปล่อยให้แต่ละโรงเรียนจัดทำกันเอง, 7. ควรปรับปรุงหลักสูตรโดยมีการลดวิชาเรียนลง จัดการเรียนการสอนเฉพาะวิชาหลัก สำหรับวิชาอื่นๆ ให้จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเพื่อลดเวลาเรียน และสามารถแบ่งกลุ่มสลับวันเรียนเพื่อลดความหนาแน่นในโรงเรียนได้ มีนโยบายในการควบคุมปริมาณการบ้านที่จริงจัง ไม่ให้การบ้านและการทำรายงานเป็นภาระที่ซ้ำเติมทั้งเด็กและครู จนเสียสุขภาพจิต เป็นต้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news