รองปลัดกทม.เผยสาเหตุน้ำทะลักท่วมเชิงสะพานซังฮี้ แนวเขื่อนถูกท่อนซุงกระแทกซ่อมแซมแล้วพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและโมบาย – เชื่อสถานการณ์วันนี้ดีขึ้น
นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัด กทม.เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.( INN ) ถึงสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงเชิงสะพานกรุงธน(ซังฮี้) เขตบางพลัด ทำให้มีชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวว่าวานนี้(8พ.ย.) หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันทำการซ่อมแซมแนวเขื่อนที่พังเสียหายจากการถูกท่อนซุงกระแทกเป็นเหตุให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนและถนนอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและโมบายมาเสริมเพื่อผลักดันน้ำ ทำให้ระดับน้ำลดลงแล้ว พร้อมยอมรับว่าน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมวานนี้ส่งผลให้จราจรเชิงสะพานซังฮี้ติดขัดอย่างหนักและไม่ได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบทำให้เกิดรถติดขัดอย่างหนัก เบื้องต้นได้มีการเรียกประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานเขตพื้นที่ติดกันเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการรีบแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยผู้ว่าฯกทม.สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ 24 ชม.พร้อมจัดทำข้าวกล่องและนำถุงยังชีพไปมอบให้กับชุมชนที่อยู่ริมน้ำที่ไม่สามารถประกอบอาหารได้
รองปลัด กทม.กล่าวว่าสำหรับวันนี้( 9 พ.ย.)คาดว่าระดับน้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยน้ำทะเลหนุนในเวลาใกล้เคียงกันคือประมาณ 09.30 น.ที่ประมาณ 1.32 ม.อาจส่งผลกระทบชุมชนริมน้ำ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่หนักเหมือนเมื่อวานนี้เนื่องจากได้มีการซ่อมแซมจุดที่รั่วและวางแนวกระสอบทรายกันไว้แล้วและระดับน้ำก็จะลดลงเรื่อยๆแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน โดยคาดการณ์จากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือว่าในวันที่ 13 พ.ย. เป็นต้นไป สถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดน้ำทะเลหนุนอีกรอบในวันที่ 20-26 พ.ย.นี้ โดยระดับน้ำจะอยู่ที่ 1.17 เมตร โดยได้สั่งการเร่งด่วน (ว.8) ให้สำนักเขต 19 เขต ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเร่งสำรวจจุดเสี่ยงในพื้นที่เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขเร่งด่วนพร้อมรายงานผล และขอแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news