ตำรวจ PCT ปูพรมกวาดล้างอาวุธปืน เครื่องกระสุน ป้องกันเหตุก่อนเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยว่า ตำรวจ PCT ตร. ได้ร่วมกับ ตร. PCT ภ.1-9 ระดมปิดล้อมตรวจค้น 31 เป้าหมายพร้อมกันทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาลักลอบซื้อขายอาวุธปืนทางออนไลน์ 23 ราย ยึดอาวุธปืน 22 กระบอก เครื่องกระสุนปืนอีกกว่า 1,000 นัด ตัดตอนก่อนถึงวันเลือกตั้งท้องถิ่น 28 พ.ย.64 ที่จะถึงนี้ เบื้องต้น เข้าตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศจำนวน 32 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลางเน้นตรวจค้นอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนเป็นหลัก ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 23 ราย ยึดอาวุธปืน 22 กระบอก (ปืน BB Gun ดัดแปลง 1 กระบอก) เครื่องกระสุนปืนรวม 968 นัด ระเบิดปิงปอง 1 ลูก และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) อีกจำนวน 9,902 เม็ด กรณีตรวจพบปืน BB Gun จะมีการทำบันทึกการตรวจยึดเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนส่งไปตรวจพิสูจน์ หากผลการตรวจสอบเป็นสิ่งเทียม อาวุธก็จะได้สอบสวนขยายผลไปยังผู้จำหน่ายหรือผู้ค้าว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ ผู้ขายก็จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานค้าสิ่งเทียม อาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่หากผลการตรวจเป็นอาวุธปืน ก็จะมีความผิดฐาน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท และพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกข้อหาหนึ่งด้วย
รองผบ.ตร.กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นส่วนใหญ่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืน และของกลางรายการอื่นๆ เป็นของตน ซึ่งซื้อเก็บไว้ป้องกันตัวและบางรายชอบสะสมโดยใช้การสั่งซื้อทางออนไลน์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากในการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกครั้งมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการต่อสู้กันรุนแรง แต่ขณะนี้ยังไม่มีพื้นที่ใดที่น่าห่วงเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือรายงานเหตุ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news