“จุรินทร์” ย้ำเดินหน้าประกันรายได้ข้าวเพื่อช่วยชาวนา ส่วน”มัน-ยาง-ปาล์ม-ข้าวโพด”ราคาดีเกินรายได้ประกันทุกตัว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำ “จุรินทร์ ออนทัวร์” กทม. ร่วมกับ นายธนิตศักดิ์ ดารามั่น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตลาดพร้าว พร้อมด้วยทีมพรรคประชาธิปัตย์ และยุวประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่เยี่ยมพี่น้องชาว “ชุมชนเนียมกล่ำสามัคคี“ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรว่า นโยบายนี้ยังเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตร ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งบัดนี้กลายเป็นนโยบายรัฐบาลไปแล้ว ไม่ใช่เฉพาะนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นมาจากเป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ที่หากรัฐบาลไม่ยอมรับนโยบายประกันรายได้ ประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ เมื่อรัฐบาลยอมรับบัดนี้ก็กลายเป็นนโยบายรัฐบาล
“ผมเรียนว่าประกันรายได้เกษตรกร ทำมา 2 ปี ปี 3 ก็จะเดินหน้าต่อไป ขณะนี้พืชเกษตรบางตัวจากทั้งหมด 5 ตัวในโครงการ ประกอบด้วย ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม ข้าวโพด หลายตัวไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่าง เพราะราคาดี สูงกว่ารายได้ที่ประกัน เพราะฉะนั้นการพูดในทำนองว่าพืชเกษตรตกทุกตัวนั้นไม่จริง จึงขอเรียนขีดเส้นใต้ไว้ว่าหลายตัวมีราคาดี เช่น ขณะนี้ยางก้อนถ้วย ที่ประกันรายได้ที่ 23 บาท แต่ได้ขึ้นมา 24-26 บาทแล้ว ขึ้นมานานแล้วไม่ได้ขึ้นเมื่อวาน
ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่ายางก้อนถ้วยราคาดีมาก ได้ประโยชน์ทั้งชาวสวนยางภาคใต้ เหนือ อีสาน ระยอง สวนปาล์ม ราคาล่าสุด กก. 8.30 – 9.10 บาท เราประกันรายได้ที่ 4 บาท มันเลยราคาประกันรายได้ไป 2 เท่ากว่าแล้ว ทำให้ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง สำหรับมันสำปะหลัง ณ เชื้อแป้ง 25% เป็นอย่างน้อย ราคาวันนี้ 2.55-2.75 บาท ประกันรายได้ที่ 2.50 บาท อันนี้ก็เป็นอีกตัวที่ยืนยันว่าราคาดี ตัวที่ 4 ข้าวโพด ก็ราคาเกินรายได้ประกัน ซึ่งประกันรายได้ที่ 8.50 บาท วันนี้ กก.ละ 9.60 บาท เพราะฉะนั้นสูงทุกตัว ยกเว้นข้าว”
พร้อมกับเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเรื่องข้าวนั้น จากที่มีหลายคนฟังต่อๆ กันมาจนเข้าใจว่าช่วงนี้ราคาข้าวตกที่สุด หรือต่ำสุดในรอบ 10 ปีนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเคยมีก่อนหน้านี้ที่ราคาตกกว่าราคาปัจจุบันหลายช่วง แต่ไม่ขอพูด เพราะจะกระทบกระเทือนทางการเมืองโดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ราคาข้าวเปลือกยุคนี้ไม่ได้ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี แต่ราคาดีหรือยังนั้นก็อยู่ในภาวะที่ผมก็อยากให้สูงกว่านี้ แต่ราคาในช่วงเวลานี้กระเตื้องขึ้นมาแล้ว อย่างข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% ราคา 7,600 – 8,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ราคา 10,300 -10,500 แน่นอนว่าเราอยากให้สูงกว่านี้ ขณะที่ปีก่อนไปถึง 15,000-16,000 เกินรายได้ที่ประกันไว้ แต่ชาวบ้านก็บ่นอีกว่าราคาสูงเกินทำให้ไม่ได้เงินส่วนต่าง ผมก็เห็นใจและเข้าใจ
แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็จะทำทั้ง 2 เรื่องคือ ทำอย่างไรดึงราคาให้ดีที่สุด และถ้าราคาต่ำกว่ารายได้ประกันก็จะจ่ายเงินส่วนต่าง ซึ่งอยากย้ำว่าเราก็จะได้เดินหน้าต่อประกันรายได้ต่อไป เพราะสามารถช่วยเกษตรกรได้เฉลี่ย 8 ล้านครอบครัว สำหรับผลไม้และพืชเกษตรตัวอื่นจะได้ใช้มาตรการเชิงรุกล่วงหน้า ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยออกมาตรการ อย่างผลไม้ของฤดูกาลหน้า ตอนนี้เคาะมาตรการจบแล้วทั้ง 17 มาตรการ สามารถปฏิบัติได้เลย ซึ่งจะช่วยดึงราคาตั้งแต่ต้นได้เลย”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news