ศบศ.เห็นชอบ4 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ดึงดูดชาวต่างชาติ-ส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลาวด์-หนุนสตาร์ทอัพ-ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) พิจารณาเห็นชอบ 4 ประเด็น ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย มาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลาวด์เซอร์วิสมาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ และมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเป้าหมายในการพลิกโฉมประเทศไทย คือ การทำให้รายได้ประเทศเพิ่มขึ้น ที่ประชุมได้รายงานว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2564 นี้ GDP สามารถกลับมาเติบโตเป็นบวกที่ร้อยละ 1.2 เป็นผลมาจากความสามารถในการส่งออกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในโครงการต่าง ๆ ทั้งมาตรการคนละครึ่ง มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19กลายพันธุ์ “โอไมครอน” ว่า ได้ดำเนินการทันที โดยสั่งห้ามการเดินทางจากประเทศเสี่ยงทันที และขณะนี้สามารถติดตามกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้ามาก่อนหน้านี้ได้ครบหมดแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและควบคุม
นายกรัฐมนตรี ยังให้แนวคิดและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนว่า การส่งเสริมการลงทุนปัจจุบันนี้ต้องมีมาตรการดึงดูดเพิ่มเติมมากกว่าสิทธิประโยชน์การลงทุนหรือมาตรการภาษี ยังต้องช่วยกันคิดพิจารณาให้เหมาะสมขณะเดียวกันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนกิจการคลาวด์เซอร์วิส และ Data Center เพื่อขับเคลื่อนดิจิทัลประเทศไทยและยังให้ปรับปรุงกฎระเบียบที่ล้าสมัย แนวทางภาษีที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมธุรกิจด้านเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ด้วยโดยหลังจากที่มีการหารือวันนี้ ให้ทุกหน่วยงานกำหนดไทม์ไลน์ในการดำเนินการภายในระยะเวลา 1 – 3 เดือนให้มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ BCG ดิจิทัล พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อมุ่งลดความเหลื่อมล้ำสร้างความมั่นคง ภายใต้การจัดสรรงบประมาณและรายได้ให้เหมาะสม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th0
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news