Home
|
คลิปข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวต้นชั่วโมง 13.00 น.

Featured Image
“อนุทิน” ระดมทีมตรวจโควิดฯ รู้ผลใน 30 นาที เร่งนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบ กดยอดความสูญเสีย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ว่า ตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ยอดการเสียชีวิตยังคงที่ แสดงว่า วัคซีนที่นำมาฉีดให้ประชาชนมีประสิทธิภาพ และประชาชนโดยภาพรวมก็ช่วยกันระมัดระวัง ถือว่าได้ช่วยกันประคองสถานการณ์

 

อย่างไรก็ตาม อย่ามองว่า เชื่อโอมิครอน ไม่รุนแรง เพราะในประเทศไทย ยังพบการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลต้าอยู่ วันนี้ ประชาชนตื่นตัวกันมากในเรื่องของการตรวจคัดกรองหาเชื้อ เป็นเรื่องที่ดี ที่คนไทยไม่ละเลย เพราะการรู้ตัวว่าติดเชื้อเร็ว ก็จะช่วยให้ระมัดระวังตัวเองเร็วขึ้น ไปจนถึงการเข้าสู่ระบบรักษาเร็ว และทำให้การควบคุมโรคในภาพรวมมีประสิทธิภาพดีขึ้น

 

ทั้งนี้ ได้มอบให้ สปสช. ประสานงานคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่มจุดตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อสนับสนุนกรุงเทพมหานครและเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยจะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 11-21 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป ตั้งเป้าตรวจวันละ 1,000 คน จุดตรวจ คือ ลานจอดรถชั้น 1 อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ โดย คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นผู้ตรวจ เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.)

 

“การตรวจหาเชื้อโควิดดังกล่าว จะใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK ที่ขึ้นทะเบียนแบบใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ (Professional Use) จะทราบผลตรวจภายใน 30 นาที โดยหากปรากฏว่าผลตรวจเป็นบวกหรือติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) หรือในระบบชุมชน (Community Isolation) จากนั้น จะเป็นการพิจารณาของแพทย์ผู้รักษา หากมีอาการมากขึ้น จะให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จนถึงโรงพยาบาลทั่วๆไป ที่มีเครื่องมือพร้อม เรามีระบบที่พัฒนาขึ้นมาจากองค์ความรู้และประสบการณ์ ซึ่ง เราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อลดการสูญเสีย ให้ได้มากที่สุด ”

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube