กองทัพเรือ ยุติปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันกลางทะเลระยอง ส่งไม้ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวเร่งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.65) นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายธีรพล ประภากร ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน มิสเตอร์โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พล.ร.ท. พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ และนายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 13 ร่วมแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติงานการขจัดคราบน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง ของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) SPRC
โดยพล.ร.ท.พิชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางกองทัพเรือได้เข้าดำเนินการเก็บกู้ตั้งแต่ทราบเรื่อง ระดมสรรพกำลังของกองทัพเรือ ทั้งยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ดำเนินการเก็บกู้คราบน้ำมันทันที ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังพร้อมให้สนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งทาง ผบ.ทร.มีความเป็นห่วงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทั้งภาคการท่องเที่ยว ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว และได้มีการปิดศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันรั่วดังกล่าวขึ้น หลังไม่พบคราบน้ำมันแล้ว และส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปฟื้นฟูต่อไป
ด้านนายอาวีระ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเล ชายหาดระยอง เป็นข้อมูลพื้นฐานความเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล ทั้งนี้ควรเลี่ยงลงเล่นน้ำบริเวณลานหินขาวหินดำ-ก้นอ่าวในช่วงนี้ไปก่อน โดยเฉพาะเด็กเพราะมีผิวที่บอบบาง ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษ ต้องใช้เวลาในการเฝ้าระวังต่อไปอย่างน้อย 3 ปี เพื่อตรวจสอบว่าคุณภาพน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่
ด้านมิสเตอร์โรเบิร์ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคนช่วยกัน จนประสบผลสำเร็จในวันนี้ ทาง SPRC พร้อมฟื้นฟูในกลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็ว รวมถึงการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมเยียวยาความเสียหาย ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสียหายในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายชาญนะ ยังกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างรวดเร็ว มีคราบน้ำมันเข้าฝั่งเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น ซึ่งก็สามารถดำเนินการควบคุมได้อย่างทันท่วงที แต่ทางจังหวัดยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะเกาะเสม็ด ทั้งนี้สิ่งที่จะทำต่อไปคือเรื่องค่าเยียวยาชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจะใช้บทเรียนน้ำมันรั่วครั้งที่แล้ว เมื่อปี 2556 ที่มีคำพิพากษาศาลเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว
ผู้ว่าฯจังหวัดระยอง ยังกล่าวว่า เบื้องต้นได้แนะนำทางบริษัทฯไม่จำเป็นต้องมีการเจรจาจนแล้วเสร็จ เพราะประชาชนที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนไม่มีรายได้ ควรจะอนุมัติเงินมาจำนวนหนึ่งมาชดเชยก่อนภายในสัปดาห์หน้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ต่อมาทางกองทัพเรือ ได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กรมเจ้าท่าไปดำเนินการฟื้นฟูความเสียหายของสิ่งแวดล้อมต่อไป ซึ่งทางกองทัพเรือ ก็ยังคงจะให้การสนับสนุนต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews