บทสัมภาษณ์พิเศษ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกับงานสธ.ย้ำการแพทย์นำการเมือง
(1) ปีใหม่จะผลักดันอะไรเป็นพิเศษ?
- กระทรวงสาธารณสุขจะเน้น การส่งเสริม ป้องกัน ที่จะให้คนสุขภาพแข็งแรงไม่ป่วย เพราะฉะนั้นตัวงานจากรมที่ดู มีหลายเรื่องที่ยังค้างอยู่ เรื่องการออกกำลังกาย ที่จะรณรงค์ให้คนมาออกกำลังกาย โดยสมัยนี้ต้องใช้วิธีการที่ทันสมัย ต้องจูงใจด้วย ใช้เทคโนโลยีมาบันทึกด้วย และต้องทำให้เค้าได้สนุก ตื่นเต้น ไปกับการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสะสมเฮลธ์ พ้อยท์ นะครับ หรือเรื่องพาทำเรื่องสมุนไพรไทยแก้ไขปัญหาที่ยังติดค้างท่อ ในแง่การสนับสนุนส่งเสริมที่จะต้องรักษาสมดุลกับความปลอดภัยของผู้บริโภคไว้ด้วย ซึ่งอันนี้ ก็จะต้องทำ ให้เดินหน้าไปให้ได้ รวมทั้งงานที่พยายามเอาเป็นโครงการนำร่อง ของสมุนไพรไทย ซึ่งกำลังจะทำเรื่องของอาหารเป็นยา
(2) ดูแล 3 กรมต้องเร่งทำอะไรอีก?
- 3 กรมที่ดูแลอยู่ ที่จะต้องมาเชื่อมระหว่าง อย. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และก็กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จะต้องเป็นตัวส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ภายใต้ที่บอกว่าหลัก คือต้องเป็นเรื่องของการสนับสนุนแต่ว่าต้องคุมเรื่องความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ซึ่งเป็นสมดุลที่อาจจะขัดกันเอง แต่ก็ต้องทำให้ได้ ซึ่งต้องเดินหน้าภายในปีนี้ให้ได้
(3) แล้วการแก้ปัญหาโควิด 19?
- แน่นอนที่สุดเหมือนอาถรรพ์นะ พอเจอปีใหม่ กำลังจะฉลองปีใหม่ทุกที เราต้องมาเจอกับสถานการณ์โควิด ซึ่งวันนี้ก็เป็นการกลายพันธุ์ไป มันก็เลยทำให้การทำงานเรื่องอื่นสะดุด แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จำเป็นต้องเน้นเรื่องงานควบคุมโรค สอบสวน เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้โควิดโอไมครอน แพร่กระจายได้รวดเร็ว ซึ่งเรารู้คุณสมบัติเค้าอยู่แล้ว ว่าแพร่กระจายได้เร็ว ถึงแม้จะไม่มีอาการรุนแรง
- ในขณะเดียวกัน มันก็มีเครื่องมือที่สำคัญ ที่ต้องเดินหน้าอีก ก็คือการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 บุคลากรก็พูดง่ายๆ ก็อ่อนล้า เพราะฉีดมายังไม่เคยหยุดเลย และต้องฉีดวัคซีนค้นหา ไปขุดคนที่ยังไม่เคยฉีดเข็ม 1 มาด้วย และที่สำคัญก็คือว่า คนที่ยังไม่ฉีดเข็ม 1 ที่วัคซีนกำลังจะมา เด็กอายุ 12 ลงมา ก็ต้องเดินหน้าที่จะเตรียมความพร้อม ในการที่จะสั่งวัคซีนมา อย.ก็ได้รับการอนุมัติแล้ว สำหรับไฟเซอร์ นะครับ ก็ต้องไปซักซ้อม และให้ลงทะเบียนสำหรับคนที่สมัครใจฉีดไฟเซอร์สำหรับเด็กวัยนี้ เด็กวัยนี้มี ประมาณ 4.7-5 ล้านคน กลมๆ ถ้าเราฉีดเด็กวัยนี้ครบ 5 ล้าน มันจะลดช่องว่างของคนที่ไม่ฉีดลง เหลือให้น้อยที่สุด เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสู้กับโควิดต่อไป
(4) ยังมีปัญหาอะไรอีกบ้าง?
- ที่เราอาจมีปัญหาอยู่บ้าง ก็คงเป็นเรื่องของการสื่อสาร ต่อประชาชน ที่จะให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องที่ยากๆ หรือการพูดซ้ำ หรือข้อมูลที่มากหลากหลาย ในแต่ละทุกความเห็น มันอาจจะเป็นเรื่องของความสับสน แต่ว่า อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เราทำทั้งหมดออกมา ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของตัวชี้วัดที่เป็นคนนอกประเมินเรา เพราะฉะนั้นก็ถือว่าก็มีความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายที่ทำงานจนได้รับการประเมิน จนถึงเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย อันดับ 5 ของโลก
(5) ทำงานร่วมกับ “อนุทิน”เป็นอย่างไรบ้าง
- ผมพยายามมองข้ามคำว่าพรรคร่วม ผมพยายามมองเนื้อว่า ในกระทรวง นะครับ รองนายกฯก็เป็นเบอร์ 1ในการที่จะคิดนโยบาย ผมก็นำนโยบายปฏิบัติ สิ่งไหนที่ทำได้ แสดงความคิดเห็น และทำให้เป็นประโยชน์ นะครับ ในแนวขององค์กร กระทรวง ผมทำเต็มที่ ส่วนอันไหนที่ไม่เห็นด้วย ก็พูดในที่ประชุม ต้องยอมรับว่าในกระทรวงสาธารณสุข การเมืองไม่ได้นำ ผมเน้นย้ำว่า การแพทย์นำการเมือง ก็หมายความว่า คณะแพทย์ ได้มีการพูดคุยตกลงนำเสนออะไรมา บนพื้นฐานข้อมูลประสบการณ์ที่ผมเรียนรู้มา ผมก็เอาตามคุณหมอ แต่ผมตัดสินใจร่วมกับ รองนายกฯ เพื่อที่จะเดินหน้างาน โดยใช้การแพทย์ นำการเมือง ส่วนการสื่อสารนั้นก็เป็นบุคลิกส่วนตัวของแต่ละคนที่จะว่ากันไป แต่เนื้องานในกระทรวงสาธารณสุข ผมมั่นใจว่าไม่ได้คำนึงถึงเรื่องต่างพรรค แต่ว่าเราเน้นองค์กร และเนื้องานที่เราทำให้เกิดประสิทธิผลและให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนในสถานการณ์โควิดให้ดีที่สุดมากกว่ามากกว่า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews