นำร่องฉีดวัคซีนโควิดนักโทษเรือนจำมีนบุรี
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานที่ขณะนี้ พบการติดเชื้อกว่า 1.4 หมื่นรายใน 11 เรือนจำและทัณฑสถาน ทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องหามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในเรือนจำให้ได้โดยเร็วที่สุด นอกเหนือจากมาตรการ Bouble and seal แล้ว วัคซีนโควิด ยังเป็นทางออกของการยับยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ได้มีการหารือกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอจัดสรรวัคซีนมาฉีดให้กับ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน ล่าสุด มีการนำร่องฉีดให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำมีนบุรี เป็นแห่งแรกของประเทศไทย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้แก่ผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษมีนบุรี พร้อมกับ พูดคุยให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขัง และกล่าวว่า ที่เรือนจำมีนบุรี จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งที่เลือกที่นี่เป็นแห่งแรกเพราะผู้ต้องขัง 3,826 คน ไม่มีผู้ติดเชื้อ โดยมีพยาบาล 12 คน ดำเนินการฉีด ซึ่งพยาบาล 1 คน จะฉีดได้ 250 คน โดยการฉีดวัคซีนซิโนแวค สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้สูง และใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ จะสามารถฉีดเข็มที่ 2 ได้ และเรือนจำต่อไปที่จะได้รับการฉีดวัคซีนคือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ และจะทยอยฉีดให้กับเรือนจำที่ไม่มีผู้ติดเชื้อหรือมีน้อยต่อไปจนครบทุกเรือนจำ โดยเรือนจำที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก คงต้องรอให้รักษาให้หายก่อน ซึ่งการดำเนินการฉีดทั้งหมดจะใช้เวลาไม่นาน
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์จะเริ่ม ฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษมีนบุรีเป็นแห่งแรก จำนวน 1,500 ราย และตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกจนครบ 3,831 ราย ภายใน 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ศูนย์ CARE ประจำเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง รับผิดชอบในการประสานงานรวบรวมข้อมูลของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบเป็นการเฉพาะราย พร้อมทั้งแจ้งความคืบหน้าการรักษา และอาการป่วยของผู้ต้องขังให้ญาติทราบผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทาง การสื่อสารอื่นใดที่ได้แจ้งไว้ เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติผู้ต้องขัง ทั้งนี้ การดำเนินการทุกขั้นตอนจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขังก่อนเสมอ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news