โยนกลอง-วัคซีนใต้พรม
ยับเยินเกินห้ามใจ จาก ” ศูนย์อำนาจ ” เซ็นเตอร์ ศบค. ที่ นายกฯลุงตู่ ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ไปถึง หน้างาน หมอที่อยู่ ด่านหน้าในศึก ”โควิดภาค3” ที่ตัวเลขยังพุ่งจากคลัสเตอร์ใหม่ๆ ที่ทุกอย่างจะไปได้สวยหากไม่ ”ผิดแผน” จนเกิดภาพย้อนแย้งที่วันนี้(14มิ.ย.) ”ลุงตู่” ประกาศให้ ”คลายล็อก” 5ธุรกิจบริการ และให้บางจังหวัดเปิดเรียนแบบออนไซด์ที่โรงเรียนได้ ขณะเดียวกันก็กดปุ่มกู้มาแจก ”คนละครึ่งเฟส3” ในวันนี้เช่นเดียวกัน แถม ”ลุงตู่” ยังพูดไปถึงโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” (Phuket Sandbox)ที่ดีเดย์ต้นเดือนกรกฎาคม….
โดยเฉพาะปรากฏการณ์ความโกลาหลจนมาสู่ ”การโยนกลอง” การบริหารจัดการ ในปฏิบัติการ ”ปูพรม” ฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ที่กลายเป็น ”วัคซีนซุกใต้พรม” ที่แม้คิกออฟมาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. แต่เกิดปัญหาชุก ตั้งแต่ก่อนและหลัง จนมาถึงวันนี้ (14มิ.ย.) 1สัปดาห์เต็ม ยังเกิดความสับสนทั้งการสื่อสารจัดการ การจัดสรร และกระจายฉีด วัคซีน แบบที่เกิดภาพ ”โยนกลอง” กันไปมาระหว่าง ศบค. สธ. กทม. และ สปสช. ไม่นับรวม อปท. มหาดไทย ก่อนหน้านี้ อย่างที่โพลนิด้าสรุปให้ว่าประชาชนเชื่อว่ามีการเมืองโยงการจัดสรรวัคซีนทำให้ไม่ทันแผนกระจายฉีดเดือนมิ.ย.
- ม.33วัคซีน”ลุงตู่”ที่แท้เท
- ราชสีห์กับหนูกลางโควิด
- สภาเปลี่ยน”ลุงตู่”กลางศึก
- วัคซีนทิพย์-ฉีดไปลุ้นไป
- วัคซีน7มิ.ย.-ฉีดปุ๊บเทปั๊บ
- หมอพร้อม-วัคซีนไม่พร้อม
ที่ก่อนจะมาเป็นอาการ อ้อมแอ้ม โยนกลอง เหมือน ยอมรับอยู่ในที่ว่า “วัคซีนไม่พร้อม” ต้องรอกลางวีคนี้ จากรัฐมนตรี สธ.วันนี้ (14มิ.ย.) ว่ากันว่า มีเหตุจากอาการพีค ”หมอไม่ทน” จาก ประกาศของ “รพ.นมะรักษ์” โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ ถึงคนไข้ที่จองฉีดวัคซีน ที่ ระบุท่อนหนึ่ง ว่า หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อ รมว.สธ. เพื่อสอบถามสาเหตุความไม่พร้อมของวัคซีน สำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง ก่อนที่ต่อมาโรงพยาบาล จะมีการ เปลี่ยนข้อความใหม่เป็น ติดต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ ผอ.รพ.ออกมาไลฟ์สดเมื่อวาน(13มิ.ย.)แฉเองเลยว่า ผู้บริหาร สธ. โทรมาปลุกแต่เช้า ให้เปลี่ยนข้อความ ถัดจากนั้นวันเดียวกัน(13มิ.ย.) ก็เกิดภาพหน่วยงานต่างๆออกมา “โยนกลอง” กันไปมาผ่านโซเชียล
ตั้งแต่คน สธ. ที่ออกมายืนยันเหมือนที่ ”หมอหนู” พูดวันนี้ (14มิ.ย.) ว่า จัดสรรวัคซีนตามที่ ศบค. กำหนด ส่งไปยังทุกจังหวัด รวมทั้ง กทม. ส่วนการจัดสรรวัคซีนไปยังหน่วยฉีดของแต่ละจังหวัด เป็นหน้าที่ของจังหวัดนั้น ๆ และ กทม. ดำเนินการเอง ที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาข้อความนี้ถูกลบไปจากเพจกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่ กทม. ของ ”บิ๊กวิน” ก็มีการออกมา ย้อนศร ผ่านเฟซบุ๊ก ลงรายละเอียดและการกระจายวัคซีนตามที่ได้รับการจัดสรรมา และเหน็บในที่ว่า กทม. ไม่ใช่ผู้ควบคุมและผู้ที่จัดสรรวัคซีน หาก วัคซีนพร้อม ตามแผน กทม. ก็พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที ที่ต่อมา กทม.จะออกมาประกาศผ่านเพจ ขอเลื่อนการฉีดวัคซีนตามโครงการ “ไทยร่วมใจ” ตั้งแต่ 15 มิ.ย. เป็นต้นไป จากเคยมีการยืนยันว่ามีวัคซีนเพียงพอฉีดให้ผู้ลงทะเบียน ขณะที่หันไปทาง ศบค.มีการระบุ ในบันทึกการประชุมวันวานก็โบ้ยว่า ศบค.ไม่รู้หรือทราบรายละเอียดการจัดสรรวัคซีนของแต่ละหน่วยงาน
เรียกว่า เกิด อาการเกี่ยงงอน ”โยนกลอง” กันใน ปัญหา ความรับผิดชอบ ที่ ”วัคซีนไม่พร้อม” ทำให้ประชาชนที่ไม่พอใจตั้งแต่ก่อนวันคิกออฟมาแล้วก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น ถึงขนาดอดีตคนกันเอง อย่าง ”อ.แก้วสรร อติโพธิ” ที่ก็ถูกเทนัดฉีดวันที่ 15 มิ.ย. ยังออกมาร่วมด้วยช่วยด่ารัฐบาล ที่เมื่อดู ”ไส้ใน” ของการจัดสรร ”วัคซีน” 100 ล้านโดส ของ ”ลุงตู่” หากจำได้ก่อนช่วง คิกออฟ วันที่ 7 มิ.ย.ตั้งแต่ช่วงก.พ.-พ.ค.เราฉีดกันมาแค่ 2 ยี่ห้อ คือ ซิโนแวค และ แอสตราเซเนการวม 6.1 ล้านโดส หลังคิกออฟ มีการปลดลอควัคซีนทางเลือกเข้ามาเติม โดยเป็นกาของแอสตราฯซะ 61.24 ล้านโดส ซิโนแวค 10-15 ล้านโดส นอกนั้นเป็น ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ที่ลงนามสัญญาจองซื้อ วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส อยู่ระหว่างเจรจาบริษัทผู้ผลิต
ที่เอาเข้าจริงทั้งหมด หาก ”นายกลุงตู่” กุมสภาพตามอำนาจ ”ซิลเกิ้ลคอมมานด์” ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ ก็ไม่น่ามีปัญหา “ของขาด” จนเกิดภาพ ”โยนกลอง” นำมาสู่ความไม่เชื่อมั่นประชาชน โดยที่น่าห่วงถัดไป คือสัญญานล่าสุด ที่ “อธ.กรมควบคุมโรค” ออกมาพูดทำนองว่า แผนวัคซีนแอสตราฯ 61 ล้านโดส ที่เคยบอกว่ามิ.ย. 6 ล้านโดส ก.ค.-พ.ย.เดือนละ 10 ล้านโดสธ.ค. 5 ล้านโดส เป็นเรื่องของ ศักยภาพฉีดไม่ใช่ตัวเลขการส่งมอบของบริษัท ที่บังเอิญไปสอดรับกับสัญญานจาก ”หมอหนู” ถึงความไม่แน่นอนในการมาของวัคซีนแอสตราฯ ในกลางสัปดาห์นี้ หลังเคยส่งมอบวัคซีนครั้งแรก 1.8 ล้านโดส เมื่อ 2 มิ.ย. แต่ลอตต่อมาวีคนี้ ”หมอเกียรติภูมิ” ปลัด สธ.อ้างว่า บริษัทขอเลื่อนส่งมอบวัคซีนออกไป 2 วัน จากวันที่ 14 มิ.ย.โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ สธ.เองเคยบอกบริษัทฯทำความตกลงไว้ว่าในสัปดาห์ที่ 3 จะส่งมอบวัคซีนอีก 8.4 แสนโดส และสัปดาห์ที่ 4 ส่งมอบอีก 2.58 ล้านโดส
ทั้งหมดทั้งมวล ที่สุดแล้ว ใครจะโยนกลองกันยังไง สุดท้ายผลก็ลงเอยที่ประชาชนคนไทยที่นอกจากจะต้องลุ้นเหมือนหวยว่า จะได้ฉีดยี่ห้อไหน ฉีดไปแล้วจะเจอเอฟเฟ็กต์เจ็บหรือตายแล้วยังต้องมาลุ้นอีกวัคซีนจะมาเมื่อไหร่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news