อดีตทหารเกณฑ์คลั่งยิงดับ2ศพ
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 23 มิ.ย. คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สะเทือนขวัญ โดยคนร้ายคือ นายกวิน ผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 ยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อซอยลาดพร้าว 25 จำนวน 3 นัด เข้าที่บริเวณลำตัวด้านหลังจนทำให้เสียชีวิตคาที่ ซึ่งการลงมือสังหาร ในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ถูกพนักงานร้านสะดวกซื้อเรียกเก็บเงินเพิ่ม เพราะทำขวดเบียร์ในร้านตกแตก
แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญยังคงดำเนินต่อ เพราะหลังก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อในซอยลาดพร้าว 25 นายกวินได้ขับรถกระบะอีซูซุ ดีเม็กซ์ สีขาว เดินทางไปยังสถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถาบันที่ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดและปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามในการใช้รักษาผู้ป่วย โควิด-19 และทันทีที่นายกวิน เข้าไปในพื้นที่ก็ได้ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญอีกครั้งด้วยการใช้อาวุธปืน ยิงผู้ป่วยโควิด เสียชีวิต 1 ราย ก่อนที่จะใช้รถกระบะคันเดิมขับหลบหนี โดยใช้เส้นทางพหลโยธินมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้ของประเทศไทย
ต่อมาตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลเพื่อจับกุมตัวนายกวิน จนทราบข้อมูลว่า นายกวิน เป็นอดีตทหารอาสา ที่ถูกปลดประจำการตั้งแต่ปี 2562 และมีปัญหาด้านสุขภาพจิต และก่อเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านพักหลังหนึ่งในจังหวัดระนอง แต่เนื่องจากภายในบ้านพักมีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ อีกทั้งตำรวจเชื่อว่า นายกวิน มีอาวุธปืนในครอบครองไม่ต่ำกว่า 2 กระบอก ดังนั้นตำรวจต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
จนเวลาผ่านไปกว่า 12 ชั่วโมง หลังจากที่นายกวินได้ลงมือสังหาร 2 ศพ และซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพักใน จ.ระนอง กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 12:30 น. ของวันวันที่ 24 มิ.ย. ตำรวจสามารถจับกุม นายกวินได้ พร้อมอาวุธ ปืน2กระบอก
สำหรับ นายกวิน ได้ถูกศาลอาญาออกจับ ในข้อหาหมายจับฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัวมายัง สน.พหลโยธิน เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในขณะที่ ด้านพี่สาวของ นายรัฐวิทย์ อายุ 32 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ ซอยลาดพร้าว 25 ที่ถูกยิงเสียชีวิต เล่าว่า น้องชายเข้าทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ได้เพียง 2 เดือน และในคืนวันเกิดเหตุ น้องชายเข้าทำงานในกะกลางคืนจนพบกับนายกวิน ที่เป็นผู้ลงมือสังหารน้องชายด้วยสาเหตุไม่พอใจเพราะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่ม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news