ป่วยโควิด..กลับบ้านเรารักรออยู่
ป่วยโควิด..กลับบ้านเรารักรออยู่
มหันตภัยโรคระบาด โควิด-19 ยังคงคุกรุ่น การบริหารจัดการระบบสาธารณสุขกำลังถูกท้าท้ายอย่างหนัก จากจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นกับจำนวนบุคคลกรทางการแพทย์ที่อ่อนล้าลงทุกวัน ยิ่งเฉพาะในเมืองหลวงและปริมณฑล ที่เกิดวิกฤตเตียงเต็ม จนผู้นำของหลายจังหวัดต้องออกมาประกาศโครงการรับผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษาตามภูมิลำเนา
ซึ่งขณะนี้ มีทั้งหมด 11 จังหวัดแล้ว ประกอบด้วยลำปาง, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์, สกลนคร, ศรีสะเกษ, นครพนม, เลย, นครราชสีมา, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์ และหนองคาย ซึ่งทุกจังหวัดเน้นย้ำหากมีผลยืนยันติดเชื้อให้ติดต่อทีมแพทย์ก่อน ห้ามเดินทางเองโดยพลการ เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะทำให้ได้รับการรักษาทันท่วงที ดีกว่านอนรอเตียงอยู่ที่กรุงเทพ
สำหรับโครงการรับคนกลับบ้าน คนคิดแรกๆคือ “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ที่สั่งการให้ตั้งศูนย์ ” รับคนลำปางกลับบ้าน” สำหรับกลุ่มพื้นที่สีแดงถ้าติดเชื้อหรือหาเตียงไม่ได้ กรณีทราบผลว่าติดเชื้อแล้วแต่หาที่รักษาไม่ได้ โดยจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดลำปางเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อดึงคนกลุ่มเสี่ยงและติดเชื้อเข้าสู่ระบบกระบวนการดูแล เพื่อลดการลักลอบเข้ามาทำให้อาจจะเกิดการระบาดหนักได้
โดยผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ตอนหนึ่งว่า “เขาก็คือคนลำปาง เราจะทิ้งเขาไม่ได้ ผมขอโทษคนลำปางหากจะได้รับผลกระทบบ้าง”..นี้เป็นแสดงบทบาทผู้นำของ” ผู้ว่าฯ หมูป่าอีกครั้งแล้ว หลังภาระกิจถ้ำหลวงทีเชียงราย และสร้างสถิตคนแห่จองฉีดวัคซีนสูงอันดับ2ของประเทศ จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก
หรืออย่างที่อุตรดิตถ์ ที่ได้จัดแผนรองรับชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ติดเชื้ออยู่กรุงเทพฯ ปริมณฑล พื้นที่เสี่ยงสูง หรือต่างจังหวัด ไม่มีสถานที่รักษาและมีความต้องการกลับมารักษาที่ จังหวัดอุตรดิตถ์ นอกจากสามารถ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งแล้ว พร้อมกับได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ไว้รองรับอีกด้วย
ขณะที่ รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คนดังจาก จุฬาฯ โพสต์ชื่นชมว่า เป็นแนวทางที่ตรงไปตรงมาและน่าชมเชยนะครับ ในขณะที่หลายจังหวัด ดูจะรังเกียจผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แต่บางจังหวัด อาทิ ลำปาง นครราชสีมา สกลนคร ขอนแก่น ฯลฯ ประกาศเปิดรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนาซะเลย แทนที่จะหาเตียงไม่ได้ถ้าทนอยู่ในกรุงเทพฯ ต่อไป ”
ส่วนในบางจังหวัด พ่อเมืองใช้มาตราการเข้มข้นสั่งหากพบผู้ติดเชื้อรายใดที่มีสาเหตุการติดเชื้อมาจากการเดินทางข้ามจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นคนนอกเดินทางเข้ามาหา หรือตัวเองเดินทางไปนอกพื้นที่ ให้ดำเนินคดีทุกราย รวมถึงญาติพี่น้องที่รวมกันปกปิดข้อมูลด้วย ในข้อหาปกปิดข้อมูล ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดทุกวันนี้คงไม่จางหายไปง่ายๆ ดังนั้นต้องเรียนรู้อยู่กับโรคระบาดอย่างมีสติ และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับครอบครัวและสังคมในที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news