จากสถานการณ์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้ป่วยตกค้าง ระหว่างรอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทำให้ทางผู้ว่าฯกทม.มีคำสั่งให้จัดตั้ง ศูนย์พักคอยวัดสะพาน เพื่อใช้เป็นพื้นคัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิคออกจากคนใกล้ชิด
พระพิศาลธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดสะพาน เขตคลองเตย เปิดเผยว่า ศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่วัดสะพานเปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดยใช้อาคารสูง 7 ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง?นำมาใช้เป็นศูนย์พักคอย ปัจจุบันมีผู้ป่วยอยู่ในการดูแล จำนวน 296 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนที่สามารถรองรับได้ 300 คน ขณะที่เช้าวันนี้ทางศูนย์ได้ส่งต่อผู้ป่วยจำนวน 12 ราย ไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามนิมิตรบุตรแล้ว
ส่วนกระบวนการรักษาผู้ป่วยในศูนย์ฯนั้น จะรักษาตามอาการ ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับฟ้าทะลายโจรร่วมกับ ยาฟาวิพิราเวียร์ควบคู่ไปกับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและวัดค่าออกซิเจนที่ปลายนิ้วทุกวัน
เช่นเดียวกับหญิงท่านนี้ ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจ และนำสิ่งของจำเป็นมาส่งให้กับคนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด ที่อยู่ภายในศูนย์พักคอยแห่งนี้ โดยมีกันทั้งหมด 8 คน ทั้งลูกสาว ลูกเขย ญาติและหลานวัย 1 ขวบ และ 10 ขวบ ขณะที่ ทางครอบครัวยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ อีก 8 คน ดังนั้นทำให้คนในครอบครัวที่เป็นผู้ป่วยโควิด ต้องแยกตัวมาอยู่ที่ศูนย์พักคอย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆ
ด้าน นายไพศาล สอนศิลป์ชัย ประธานชุมชน ข้างโรงเรียนวัดสะพาน ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ในความดูแลจำนวนมาก ส่งผลให้ ทางศูนย์ประสบปัญหาขาดแคลนทรัพยากรหลายด้าน เช่น อาหาร ที่จะต้องจัดส่งให้ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่รับประทานรวม 300 กล่องต่อมื้อ น้ำประปาที่ใช้ในการอุปโภค รวมถึงเงินที่จะต้องนำมาชำระค่าน้ำและไฟ ภายในศูนย์
“ถ้าถามจากใจของผม อยากได้เลยก็คือสตางค์ เพราะค่าใช้จ่ายวันหนึ่งค่าน้ำค่าไฟมันตามมาทีหลัง แล้วก็ค่าอาหารที่หลวงพ่อจะต้องซื้ออาหารสด มันไม่มี เราชาวชุมชนก็ช่วยกัน ช่วยกันครับ เพราะไม่งั้นวัดเดินต่อไม่ได้ ค่าใช้จ่ายมันมีเยอะมากเลย”
ทั้งนี้ เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนใกล้ชิด และลดการแพร่เชื้อ กรุงเทพมหานครได้กำหนดจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ในอีกพื้นที่ 6 กลุ่มเขต จำนวน 17 แห่ง ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 2,560 เตียง และตั้งเป้าจะขยายเพิ่มให้ครบ 20 ศูนย์ เพื่อให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 3,000 ราย ระหว่างรอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลักหรือโรงพยาบาลสนามต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
