ราคาเจ็บแต่จบ Lockdown 3แสนล้าน
ห้วงยามนี้ สถานการณ์โควิด-19 กำลังบีบบังคับให้รัฐบาลเข้าตาจนต้องงัดมาตรการคุมเข้มขั้นสูงสุดมาใช้ ล็อกดาวน์ ซึ่งมาจากปัจจัยลบหลายประการ นั้นคือความร้ายแรงของโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่กำลังบุกยึดเมืองหลวงของเรา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งถึงระดับหมื่นคนต่อวัน ส่งผลปริมาณเตียงไม่เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการหนัก และตามมาด้วยผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
รวมไปถึงปริมาณการฉีดวัคซีนที่ยังไม่ครอบคลุมมากพอ ภาพรวมทั้งประเทศยังไม่ถึง 13 ล้านโดสจากเป้าหมาย 50 ล้านโดส ในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้การตัดสินใจปิดแคมป์คนงานทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของแรงงาน เชื้อไวรัสเดินทางจากกรุงเทพกระจายไปต่างจังหวัดเกือบครึ่งประเทศ มีการติดกันในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงเกิดคลัสเตอร์ต่างๆขึ้นมากมาย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายรายแสดงทัศนะไปในทางเดียวกัน อย่าง ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์เฟซบุ๊กเสนอรัฐบาลล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ หลังโควิดสายพันธุ์เดลต้ากลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศ ทำให้ผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยใน ICU เพิ่มมาก แม้จะระดมสร้าง รพ.จริง, จัดหาเตียง, เนรมิตเครื่องช่วยหายใจ, ออกซิเจน, อุปกรณ์การแพทย์ต่าง ๆ ได้ชั่วข้ามคืน เราก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนบุคลากรได้มากกว่านี้อีก การระดมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านวัคซีนก็ยังไม่ดีพอ การตรวจหาเชื้อเชิงรุกก็มีข้อจำกัด ดังนั้นทางสุดท้ายในการตัดตอนการระบาด คือ full lockdown
ด้าน น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัวเห็นว่าควรล็อกดาวน์โดยเร็ว เศรษฐกิจเรียกคืนกลับมาได้ ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ แต่ชีวิตผู้คนที่เสียไปแล้ว เราไม่สามารถจะเรียกคืนกลับมาได้อีก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องออกแบบระบบ วางแผนจัดการ และทำการสื่อสารให้ดีที่สุดว่าจะล็อกดาวน์กันอย่างไรบ้าง นานเท่าใด รวมทั้งมีแผนที่จะเยียวยาผลกระทบต่อกลุ่มต่างๆ ให้รวดเร็ว ได้ผลชัดเจน ผ่านการสื่อสารที่จริงใจและเข้าใจง่าย และคนไทยจะได้ผ่านพ้นเหตุการณ์หนักหนาไปด้วยกันในที่สุด บอบช้ำน้อยที่สุด
สอดคล้องกับรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ฟซบุ๊กว่า “ล็อกดาวน์ โดยจำเป็นต้องแจ้งต่อประชาชนถึงเป้าหมายที่ชัดเจน และระยะเวลาแต่ละระยะ ทั้งนี้ให้ทำใจไว้ล่วงหน้าว่า การล็อกดาวน์ระยะสั้นจะไม่ได้ผลสำหรับตัดวงจรการระบาดที่มีความรุนแรงและปล่อยไว้ยาวนานหลายเดือนแบบที่เรากำลังเผชิญ”
ขณะเดียวกัน ต้องมีราคาความเสียหายที่รัฐต้องจ่ายแลกกับชีวิตของพลเมืองในชาติ โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า ว่ากระทรวงการคลังได้แจ้งข้อมูลในช่วงเมษายน 2563 ว่าใช้งบประมาณเยียวยา เดือนละเกือบ 3 แสนล้านบาท ถ้าเราทำอีกจะต้องหางบประมาณมาเยียวยาประชาชนอีกมาก แม้จะใช้งบถึงเดือนละ 3 แสนล้านบาท ก็ยังไม่สามารถเยียวยาประชาชนได้ทั่วถึง
ฉะนั้น เมื่อถึงเวลารัฐบาลหรือศบค.ต้องตัดสินใจ ได้โปรดส่งสัญญาณแบบชัดๆ ให้กับประชาชน ว่าจะเจ็บแค่ไหน เจ็บอย่างไร เจ็บนานเท่าไร และจะซับบาดแผลเยียวยาความเจ็บนั้นอย่างไร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
