ควันไฟโรงงานจางเร่งล้อมคอก
ที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดเหตุ เพลิงไหม้โรงงาน อุตสาหกรรมมาจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้คร่าชีวิตนักดับเพลิงไปเป็นจำนวนมากจนนำมาสู่คำถาม และข้อข้องใจของสังคมอย่างต่อเนื่อง ถึงประเด็นการจัดการปัญหาเรื่องสารพิษปนเปื้อนในโรงงานที่เต็มไปด้วยสารเคมี และการจัดการปัญหาเรื่องผังเมืองที่เปิดโอกาสให้ชุมชนมาอยู่ใกล้โรงงานมานานกว่า 10 ปี ได้อย่างไร
สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ได้สัมภาษณ์นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้บอกถึงกรณีโรงงานระเบิดที่จังหวัดสมุทรปราการว่าภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทางจังหวัดมีความกระตือรือร้นได้สั่งเรียกประชุมผู้ประกอบการ เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ที่มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงอันก่อให้เกิดอันตรายทันที แม้ว่าจะทำการตรวจสอบทุกปีอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งได้กำชับให้ดูแลมาตรความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเบื้องต้นโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่มีการได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายประกอบกับมีระบบป้องกันครอบคลุมเพียงพอด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบว่ามีการลักลอบเช่าพื้นที่ทำการผลิตสินค้าผิดกฎหมายแต่อย่างใด อีกทั้งยังให้ทางท้องถิ่นช่วยจับตาดูเป็นพิเศษหากพบการกระทำดังกล่าวจะรีบดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้สภาพแวดล้อมอากาศโดยรอบก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ก่อมลพิษได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ทางสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ได้สัมภาษณ์นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ระบุถึงกรณีโรงงานระเบิดที่จังหวัดสมุทรปราการว่าทางจังหวัดได้สั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่ดำเนินการลงพื้นที่เพื่อสำรวจตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง ทั้งโรงงานทั่วไปหรือโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีมีพิษ ที่มีความเสี่ยงสามารถเกิดอันตรายได้พร้อมพบผู้ประกอบการทั้งหมดแล้ว
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล จำนวนแรงงาน ซึ่งจะแบ่งเป็นสามกลุ่มได้แก่ คนงานที่มีจำนวน 200-300 คน คนงานที่มีประมาณ 100 และต่ำกว่า 100 คน ทั้งนี้ โรงงานอุตสาหกรรมส่วนมากได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายส่วนการลักลอบเช่าพื้นที่เพื่อผลิตสินค้านั้นยังไม่พบแต่อย่างใดอีกทั้งยังได้เน้นมาตรการดูแลความปลอดภัยในโรงงานอย่างครบวงจร
ขณะเดียวกัน ทางด้านคุณสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรจึงได้ถอดบทเรียนเหตุโรงงานระเบิดที่ จ.สมุทรปราการ ไว้เบื้องต้นว่าอาจถึงจุดเปลี่ยนที่โรงงานอันตรายควรย้ายออกจากพื้นที่เมืองและถึงเวลาพัฒนานวัตกรรม การควบคุมเพลิงสารพิษเพราะในอดีตเกิดความสูญเสียของนักดับเพลิงจำนวนมาก เพราะฉีดน้ำช่วยลดความร้อนเท่านั้น ซึ่งปีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่มีใครบอกได้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเหตุสลด เราไม่ควรมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะต้องเปลี่ยนสักที โดยเฉพาะสำนักงานเขต หรือ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ต้องขึ้นทะเบียนโรงงานทุกประเภท เพื่อจำแนกประเภทเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงน้อย เพื่อตรวจสอบอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งต้องมีระบบความดูแลความปลอดภัยให้ ครอบคลุม 100% ดังนั้น ควรจะตรวจสอบและประเมินทุกๆ 6 เดือน เพื่อความแน่ใจช่วยลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news