ล็อกดาวน์ VS เคอร์ฟิว…แค่นี้จะพอมั้ย
ล็อกดาวน์ VS เคอร์ฟิว…แค่นี้จะพอมั้ย
มาตรการใหม่ล่าสุดของ ศบค. ในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ขยาย พรก.ฉุกเฉินทั่วประเทศอีก 2 เดือน “ล็อคดาวน์ เคอร์ฟิว” 10 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด คือ กทม.และ 5 จังหวัดปริมณฑล นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรปราการ สมุทรสาคร กับ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส และ สงขลา เริ่มบังคับใช้พรุ่งนี้ เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายและดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด แต่ในทางกลับกัน เมื่อไปดูตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ เสียชีวิต ที่ ศบค.รายงานล่าสุด ประกอบกับที่คุณหมอหลายคนคาดการณ์ ตัวเลขจะทะลุหลักหมื่น สายพันธ์เดลตาจะพีคในเดือนนี้ หรือเดือนหน้า
จึงเกิดคำถามว่า มาตรการแค่นี้ของ ศบค. จะเพียงพอหรือไม่ จะเอาอยู่หรือไม่ เพราะที่ผ่านๆมาก็ขอความร่วมมือมาโดยตลอด เคยประกาศโทษสูงสุดไม่สวมแมสก์ออกจากบ้าน จับปรับแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ก็ยังไม่เป็นผล ยังมีคนละเลย ไม่รับผิดชอบสังคม การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ก็ไม่เด็ดขาด
เมื่อ ศบค.งัดมาตรการล็อคดาวน์ และเคอร์ฟิว ออกมาใช้อีกครั้ง เหมือนกับ เมื่อ เม.ย.2563 จึงน่าสนใจว่า จะทำได้เหมือนกันหรือไม่ เพราะ เมื่อปีก่อนนั้น เป็นการล็อคดาวน์ และเคอร์ฟิว แบบฟูลออปชั่น ทำเหมือนกันทั่วประเทศ มีการเข้มงวดในทุกๆ ด้าน และประชาชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ต่อเนื่องจนผู้ป่วยใหม่ เหลือแค่หลัก10 และผู้ป่วยในโรงพยาบาลแค่หลักร้อย จึงค่อยๆ ผ่อนคลายทีละสเต็ป 3 รอบ ก่อนมาพังเจอระลอก 2 แรงงานสมุทรสาครตอนปลายปี และระลอก 3 ทองหล่อจนเอาไม่อยู่ และมีกลายพันธ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเมื่อบริบทของการแพร่ระบาดเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม แต่มาตรการที่รัฐใช้กลับอ่อนกว่าที่เคยทำสำเร็จ ทำแค่บางพื้นที่ ทั้งที่ทุกจังหวัดมีผู้ป่วยใหม่ทุกวัน จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จะพยายามเลี่ยงคำเพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าเยียวยาตามที่เขาวิจารณ์หรือไม่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และผู้นำ ศบค.ย่อมรู้ดี ว่าในสถานการณ์นี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องคุมการระบาด ลดจำนวนผู้ป่วย เสียชีวิตลงให้ได้ เพราะหากมาตรการใหม่ที่ใช้ ยังเอาไม่อยู่ ความสูญเสียจะยิ่งทวีคูณ และไม่มีใครอยากเห็นอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news