“โค้ชโอ่ง” กับภารกิจใหม่ในถิ่นการท่าเรือ
ภายหลังจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟ.ซี. ได้แต่งตั้ง โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือมากประสบการณ์ วัย 51 ปี รับตำแหน่ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน การท่าเรือ เอฟ.ซี. อย่างเป็นทางการ พร้อมดัน “โค้ชอู๊ด” สระราวุฒิ ตรีพันธ์ กุนซือคนเก่าขึ้นรับตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านเทคนิคของทีม สำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2021/22
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ การท่าเรือเอฟ.ซี. ถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์พอสมควรเนื่องจาก โค้ชโอ่ง ที่เคยคุมสิงห์เจ้าท่า มาแล้วหนึ่งหนในปี 2556 ถึง 2557ในฤดูกาลที่ผ่านมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ศึกโตโยต้าไทยลีก แม้การเตรียมทีมในฤดูกาลใหม่ โค้ชโอ่ง ถูกส่งไปคุมทีมพันธมิตรอย่าง ราชประชา เอฟซี ทีมน้องใหม่ในศึกไทยลีก 2 พร้อมเป้าหมายพาทีมขึ้นชั้นสู่ไทยลีก 1 ในก่อนหน้านี้
ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของ โค้ชโอ่ง คงสร้างความหวังให้กับแฟนบอลพอสมควร ที่กลับมาพร้อมดีกรีแชมป์ลีก2ปีซ้อน พร้อมเชื่อว่าเวลาที่เหลือก่อนศึกโตโยต้า ไทยลีก จะเปิดฤดูกาลใหม่ การท่าเรือ คงมีความเปลี่ยนแปลงไม่น้อย โดยเฉพาะนักเตะ
ที่การท่าเรือ ถือว่าเป็นทีมที่มีขุมกำลังเยอะอันดับต้นๆในไทยลีก คงมีการโยกย้ายหลายคนแน่นอน เพราะดูจากการทำทีมในฤดูกาลที่ผ่านมาของ โค้ชโอ่ง กับบีจี นั้นใช้นักเตะไม่เยอะเก็บไว้เท่าที่จำเป็น ส่วนรายอื่นๆก็ปล่อยให้ทีมพันธมิตร ยืมตัวไปใช้งาน
รวมถึงสไตล์การเล่นของท่าเรือคงเปลี่ยนไปแน่นนอน ที่เน้นเปิดเกมบุกแลก เอนเตอร์เทรนด์แฟนบอล คงกลับมาเน้นผลการแข่งขันมากขึ้น ทำประตูไม่เยอะเหมือนเก่า ซึ่งจากแบบแผนของ โค้ชโอ่ง กับขุมกำลังท่าเรือ คงมีการเสริมทัพอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะในตำแหน่งแนวรับ ที่เป็นจุดอ่อนของการท่าเรือจึงมองว่าอาจมีการคว้ากองหลังต่างชาติ มาเป็นตัวหลักแนวรับแทนโควตาของ ดาบิด โรเชล่า ที่ไม่มีชื่อในฟุตบอลลีกฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนอนาคตกองหน้าคงต้องติดตามเช่นกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และอีกสิ่งหนึ่งที่แฟนบอลท่าเรือต้องทำใจรอ คือการปล่อยซุปเปอร์สตาร์ไปบ้าง เพราะบางตำแหน่งถือว่ามีมากเกินความจำเป็น
จากนี้คงต้องติดตามว่าการท่าเรือจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน จากการเข้ามาของ โค้ชโอ่ง อย่างไรก็นี้การกลับมาหนนี้กับภารกิจที่แตกต่างจากรอบก่อน ที่เวลานี้ การท่าเรือ เป็นทีมเต็งแชมป์ และต้องการความสำเร็จต่อเนื่อง
หากแข้งท่าเรือจูนแท็กติกของ โค้ชโอ่ง ได้เร็วเชื่อว่าจะกลับมามีลุ้นในการคว้าแชมป์ลีกได้แน่ แต่อย่างไรก็ดีผลงานจะต้องพิสูจน์ โค้ชโอ่ง กับการท่าเรือ จะลงตัวมากแค่ไหน คงต้องดูกันอีกครั้งหลังเปิดฤดูกาลนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news