วัคซีนด่านหน้า ดราม่า”เสื่อม”ศรัทธา
วัคซีนไฟเซอร์ กลายเป็นเผือกร้อนอีกครั้งหลังดราม่า “หมอบุญ” ยังไม่สะเด็ดน้ำ ก็มาถูกปูดโปงถึงกระบวนการจัดสรรวัคซีนให้กับ “บุคลากรทางการแพทย์” และบุคลากรด่านหน้า ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรน้อยกว่าจำนวนบุคลากรที่ต้องการฉีด แถมยังมีดราม่าเข็ม 3 ที่บุคลากรด่านหน้าที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์”บางราย อยากอวด อยากโชว์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
ต่อมาเครือข่ายบุคลากรการทางการแพทย์ เช่น หมอไม่ทน , ภาคีบุคลากรสาธารณสุข , นิสิตนักศึกษาแพทย์เพื่อประชาธิปไตย , DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร และ ภาคีเทคนิคการแพทย์ เชิญบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับ “วัคซีนโควิด” “ไฟเซอร์”และแสดงเจตจำนงขอรับแล้วแต่ไม่ได้รับ ร่วมลงชื่อ เพื่อส่งเสียงบอกว่า มีด่านหน้าอีกจำนวนเท่าใดที่ไม่ได้รับวัคซีนที่ควรได้รับ
ซึ่งเรื่องนี้ ทางด้าน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ชี้แจงว่า เบื้องต้นกรมควบคุมโรคส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้ 50- 60% จากความต้องการของบุคลากรที่ได้สำรวจไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นจะสำรวจศักยภาพการฉีดแต่ละจุดและจัดสรรให้เพิ่มเติมแน่นอน ซึ่งก็สอดคล้องกับ หลายพื้นที่ ที่แม้ตอนแรกจะระบุว่าได้มาไม่ครบ แต่รัฐจะจัดสรรหามาเพิ่ม ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่าวัคซีนไฟเซอร์จะกระจายไปยัง 13 จังหวัดสีแดงเข้มก่อน และจะส่งเพิ่มไปอีก 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ในลอตต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ไม่มีวัคซีน VIP
ส่วนที่ ลำปาง สสจ.ลำปาง เผยว่าได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2,400 โดส ฉีดให้บุคลากรด่านหน้า จากจำนวนเต็มทั้งหมดกว่า 5 พัน เชื่อหากไม่ติดขัด คาดรัฐบาลจัดสรรเพิ่มให้ครบสัปดาห์หน้า หรือจะเป็นที่ปัตตานี ทางนพ.อรุณ ประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี ระบุว่า จังหวัดได้ขอวัคซีน Pfizer 3,380 กว่าโดส แต่ที่ได้รับจริงๆ เพียง 2,160 กว่าโดส แต่ยืนยันว่าส่วนที่เหลือจะได้รับครบทุกคน คาดว่าประมาณ 13 ส.ค.นี้ หรือย่างที่ “รพ.ขอนแก่น” แจงดราม่าแถลงการณ์ทวงวัคซีนเกิดจากความเข้าใจผิดเรื่องการสื่อสาร ยันได้ครบแต่ต้องแบ่งรอบจัดสรร เนื่องจากไม่มีที่เก็บ ส่วนบางพื้นที่ก็ได้ตามที่ขอ อย่างจ.สมุทรสาคร ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์ด่านหน้า ผอ.โรงพยาบาลสมุทรสาคร เผยได้ 880 ขวด ครบตามที่ขอจัดสรร
อย่างไรก็ตาม กระแสความไม่พอใจหรือบางคนยกระดับไปถึงเกลียดรัฐบาล ได้โหมกระพือขึ้นแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกระทบต่อ”บุคลากรทางการแพทย์” ที่น่าจะเป็นเพียงกลุ่มบุคคลเดียวที่สังคมยังสามารถฝากความหวังไว้ได้ ซึ่งเมื่อคุณหมอ คุณพยาบาล ออกมาส่งเสียงตะโกนแสดงความไม่พอใจไปยังผู้เกี่ยวข้อง จึงทำให้ประชาชนออกมาสนับสนุนกันมากมาย
แม้ว่าภายหลังโรงพยาบาลต่างๆจะออกมาแจงปมดราม่า ว่ารัฐพร้อมสนับสนุนวัคซีนไฟเซอร์ ให้ตามจำนวนที่ร้องขอ แต่ทว่า คนส่วนใหญ่เชื่อไปแล้วว่า ภาครัฐใจดำกับนักรบเสื้อกาวน์ บวกรวมกับความผิดพลาดการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ทั้งล่าช้า ทั้งเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ก็ยิ่งทำให้ ง่ายต่อการเสื่อมศรัทธารัฐบาลได้ ฉะนั้นแล้วรัฐบาลต้องไวต่อความรู้สึกของสังคม และตอบสนองอย่างรวดเร็ว มิใช่เพิกเฉยและดูดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news