ปชช.1,500คิวทยอยตรวจโควิดที่ปตท.
จุดตรวจคัดกรองโควิด ปตท. อาคาร EnCo Terminal ปชช.ทยอยเข้าตรวจตามนัดอย่างต่อเนื่อง 1,500 คิว ด้าน จนท.เผย พบผู้ติดเชื้อเฉลี่ย20%ต่อวัน
ด้วยความร่วมมือของรัฐและเอกชน นำโดยกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และพันธมิตรทางการแพทย์ จนก่อเกิดเป็นหน่วยคัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) แห่งแรกที่เอกชนได้ร่วมดำเนินการกับภาครัฐผ่านโครงการ “ลมหายใจเดียวกัน” โดยหน่วยคัดกรองและโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ประกอบด้วย 4 จุดหลัก
ซึ่งจุดที่ 1 เป็นหน่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนอีก 3 จุดเป็นโรงพยาบาลสนามแบบครบวงจร
ในวันนี้ทีมข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ลงพื้นที่สำรวจ หน่วยคัดกรองจุดที่ 1 พบว่า เป็นหน่วยคัดกรองของ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ให้บริการที่ อาคาร EnCo Terminal หลักสี่ ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นจุดคัดกรองสำหรับกลุ่มเสี่ยง โดยต้องจองคิวล่วงหน้า 1 วัน ผ่านแอปลิเคชั่น QQ. เท่านั้น ซึ่งจะให้บริการอยู่ที่ 1,500 คน/วัน
นายธนา เดชเลย์ จนท.บริษัทกลุ่ม ปตท. ได้พาทีมข่าวลงพื้นสำรวจขั้นตอนการตรวจในแต่ละจุดพบว่า มีทั้งหมด 8 ขั้นตอนด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 1 คือ ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ผ่านแอปพลิเคชัน QQ ตรวจสอบการนัดหมายและลงทะเบียนเพื่อรับบริการ จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนที่
2.คือกรอกใบยินยอม โดยต้องยื่นบัตรประจำตัวประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมทั้งเซ็นยินยอมรับการเข้าตรวจคัดกรองหลังจากเซ็นใบยินยอมแล้ว ให้นำมาส่งยังเจ้าหน้าที่ในจุดที่ 3 เพื่อออกสติกเกอร์บาร์โค้ดให้กับประชาชน เพื่อจะได้มีข้อมูลในระบบและเจ้าหน้าที่ยังสามารถเช็คได้ด้วยว่ามีผู้เข้าตรวจกี่คน ซึ่งจะเป็นฐานมูลให้กับหน่วยให้บริการต่อไป
จากนั้นเมื่อได้สติกเกอร์ QR CODE ให้นำไปยื่นในจุดที่ 4. คือจุดตรวจคัดกรอง โดยใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK ที่ตรวจง่ายและทราบผลไว้ภายใน 15-30 นาที
เมื่อตรวจ ATK เสร็ตจะมีจุดพักคอยรอผลสำหรับประชาชนในจุดที่ 5 ซึ่งจุดนี้เมื่อผลออกจะมีเจ้าหน้าที่ประกาศผลว่าใครพบเชื้อหรือไม่พบเชื้อ หากพบว่าผลเป็นลบสามารถกลับบ้านได้ทันทีส่วนหากพบว่าผลเป็นบวกหรือมีอาการเสี่ยงในการติดเชื้อ ต้องทำการตรวจซ้ำด้วยระบบ RT-PCR
ในจุดที่ 6 เมื่อตรวจซ้ำด้วยระบบ RT PCR เสร็จสิ้น ผู้ติดเชื้อที่มีผลเป็นบวก
ต้องเข้าไปยังจุดที่ 7 เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์และรับกล่องพลังใจคนไทยไม่ทิ้งกัน เมื่อรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์เสร็จสิ้น
ต้องเข้าไปยังจุดที่ 8 เพื่อเอกซเรย์ปอด จากนั้นสามารถกลับบ้านได้ โดยทางหน่วยตรวจจะมีรถบริการรับ-ส่งให้จนถึงที่บ้าน
ส่วนผลการเอกซเรย์และผล RT PCR จะทราบผลภายใน 1 วัน หลังการตรวจโดยจะมีการแจ้งผ่านระบบ SMS ที่ลงทะเบียนไว้
ซึ่งผลการตรวจจะประเมินแล้วผู้ป่วยมีอาการในระดับใด จะได้แยกเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งมีทั้งเข้าสู่ระบบ Home Isolation หรือเข้าสู่ระบบการรักษาได้ของหน่วยตรวจใน จุดที่ 2 จุดที่ 3 และจุดที่ 4 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามแบบครบวงจร เพื่อรองรับการรักษาตามระดับอาการ โดยมีโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยสีเขียว ในรูปแบบของ Hospitel จำนวน 1,000 เตียง
ส่วนโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยสีเหลือง ที่มีอาการในระดับหนักขึ้น เปิดให้บริการ ที่ โรงแรมเดอะบาซาร์ กรุงเทพมหานคร มีเตียงผู้ป่วยจำนวน 300 เตียง มีระบบไฮโดรเจน ท่อสายตรง Direct Tube ส่งตรงถึงผู้ป่วยทุกเตียง
ด้านโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยสีแดงนั้น จัดสร้างโรงพยาบาลสนาม ICU สำหรับผู้ป่วยจำนวน 120 เตียง บริเวณพื้นที่โล่งของโรงพยาบาลปิยะเวท จัดทำห้องรักษาความดันลบแยกผู้ป่วย รวมถึงมีการติดตั้งถังออกซิเจนเหลวขนาด 10,000 ลิตร พร้อมห้องฉุกเฉินพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แห่งนี้ ให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20% วัน อย่างไรก็ตามเบื้องต้นจะให้บริการที่ อาคาร EnCo Terminal ไปจนถึงวันที่ 20 ส.ค. จากนั้นจะเวียนเปลี่ยนสถานที่ แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นที่ใด แต่ยังคงเป็นการให้บริการผ่านโครงการ “ลมหายใจเดียวกัน” ด้วยความร่วมมือของรัฐและเอกชนเช่นเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
