วิบากกรรมแรงงานไทย ทำอย่างไรให้ได้วัคซีน
รู้ดีว่าสำคัญแต่ก็ไม่ให้ความสำคัญ เพราะล่าสุดเวลานี้แรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา33 จำนวนกว่า 11 ล้านคน ได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปเพียง 2.5 ล้านคน และมีเพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม
โดยหอการค้าไทยแจกแจงรายละเอียดไว้ว่า มาตรการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตน โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ใน 10 จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา มีผู้ได้รับวัคซีนแล้ว จำนวน 1.3 ล้านคน เป็นคนไทย 1.1 ล้านคน และคนต่างชาติ 1.2 แสนคน โดยเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่ง จำนวน 1.2 ล้านคน และได้รับวัคซีนครบสองเข็ม จำนวนเพียง 2.3 หมื่นคนเท่านั้น เห็นแบบนี้แล้วให้น่าเป็นห่วงภาคการผลิต เพราะเวลานี้การพื้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขยายวงกว้างออกไปอีกหลายจังหวัดซึ่งการแก้ไขปัญหาทำได้ยาก แต่การรับวัคซีนของแรงงาน ก็ยังคงล่าช้าและไม่ทั่วถึง
โดยนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน หอการค้าไทย มองว่า รัฐบาลต้องเร่งจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้กับแรงงานภาคการผลิตทุกกลุ่มให้มากขึ้นและเร็วกว่าที่เป็นมา ไม่ใช่เฉพาะแรงงานที่อยู่ในมาตรา33 เท่านั้น แต่ให้รวมถึงแรงงานนอกระบบประกันสังคมอีกประมาณ 1.3 ล้านคนด้วย เพราะหากต้องการเปิดประเทศและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ให้ได้ จะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับแรงงานให้ครอบคลุมในทุกภาคส่วน
โดยมองว่าเวลานี้รัฐบาลยังจัดสรรและฉีดวัคซีนให้กับภาคแรงงานน้อยเกินไป และห่วงว่าหากยิ่งล่าช้าจะทำให้การขาดแคลนแรงงานมีมากขึ้น ส่งผลกระทบกับภาคการผลิตเพื่อการส่งออกรวมถึงการผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน
และเมื่อภาคการผลิตได้รับผลกระทบ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ ก็จะมีมากขึ้น สูงกว่าที่เคยประเมินไว้ ว่าความเสียหายจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนสิงหาคมนี้ อยู่ที่ 8 แสน ถึง 1 ล้านล้านบาท และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยยังมีการขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ความเสียหายต่อเศรษฐกิจในปีนี้จะเกิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้ GDP ของประเทศจะขยายตัวติดลบอยู่ที่ร้อยละ 1.5
ตัวเลขมากมายเวลานี้ การให้แรงงานเข้าถึงวัคซีนเป็นทางออกที่ชัดเจนที่สุด ยิ่งได้เร็วยิ่งเสียหายน้อย ยิ่งช้าผลกระทบยิ่งซึมลึกยากที่จะแก้ไข เวลานั้นปลดล็อกเปิดประเทศ ไฟเขียวนำเข้าวัคซีนเสรีได้ก็เปล่าประโยชน์ เพราะที่สุดคงไม่เหลือธุรกิจที่มีกำลังพอ ที่จะจ่ายเงินนำเข้าวัคซีนมาใช้เองได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
