ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-2020 ประจำค่ำคืนวันเสาร์ 11 กันยายน 2564 คู่ที่น่าสนใจที่เราเลือกมาวิเคราะห์วันนี้ เป็นเกมที่ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลา 21.00 น. ระหว่าง ปีศาจเเดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
สถิติการพบกันทั้งหมด 149 ครั้ง แมนฯยู ชนะ 75 ครั้ง นิวคาสเซิ่ล ชนะ36ครั้ง เสมอกัน38ครั้ง ผลงานล่าสุดของ แมนฯยู ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ ถึง 15 ประตูและเสีย 8 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด ส่วน นิวคาสเซิ่ล ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 2 ยิงได้ 9 ประตูและเสีย 8 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด
ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนฯ ยู ทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ รั้งอันดับที่ 3 ของตาราง มี 7 คะแนน โดยนัดล่าสุดพวกเขาเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน มาได้1-0 สภาพความพร้อมก่อนแข่งจะยังไม่สามารถใช้งาน มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ดีน เฮนเดอร์สัน ในเกมนี้ได้แน่นอนแล้ว เช่นเดียวกับ เฟร็ด ที่ถูกสั่งห้ามลงสนามกรณีไปรับใช้ชาติโดยไม่มีการกักตัว อย่างไรก็ตามแข้งใหม่ป้ายแดงอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่เพิ่งจะมาลงซ้อมร่วมกับทีมน่าจะมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพล แมนฯ ยู นัดนี้
ฟาก นิวคาสเซิล ทีมของ สตีฟ บรูซ ฟอร์มไม่สู้ดีนักหลังเพิ่งจะเก็บได้เพียง 1 คะแนนจากการลงเล่น 3 เกมโดยนัดล่าสุดพวกเขาทำได้เพียงเสมอกับ เซาแธมป์ตัน ไป 2-2 สภาพทีมก่อนลงทำการแข่งขันจะไม่สามารถใช้งานตัวหลักได้หลายรายรวมถึงนายทวารมือหนึ่งและสองอย่าง มาร์ติน ดูบราฟก้า และ คาร์ล ดาร์โลว์ เช่นเดียวกับ จอนโจ้ เชลวีย์ และ ไอแซค เฮย์เด้น จะไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ในเกมนี้เช่นเดียวกัน
คู่นี้มองว่า เจ้าบ้านเกมนี้น่าจะได้ประเดิมกับดาวเตะดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วย ซึ่งน่าจะส่งผลทั้งประสิทธิภาพ และความมั่นใจของเพื่อนร่วมทีม ประกอบกับฟอร์มในถิ่นก็คงคึกคักต่อเนื่อง ประกอบกับนิวคาสเซิ่ล ระยะหลังๆชอบพ่ายกลับออกจากโอลด์ แทร์ฟฟอร์ด แถมนิวคาสเซิ่ล ที่มีเพียงแต้มเดียวจากสามนัดล่าสุดในลีก และเกมรับของทีมก็ยังเป็นปัญหาอยู่ตลอด เชื่อว่าทีมเยือนอย่างทัพสาลิกาดงไม่น่าจะต้านทานความแข็งแกร่งของ แมนฯยู ได้ไหวเเน่นอน ยิ่งหาก แมนฯยู ได้ลูกแรกเร็วก็น่าจะสกอร์ไหลต่อยาวๆได้เลย
ขณะที่ คู่ดึกเวลา เวลา 23.30 น. ที่ สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดบ้านรับมือ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า
สถิติการพบกันทั้งหมด 142 ครั้ง เชลซี ชนะ 59 ครั้ง แอสตัน วิลล่า ชนะ51ครั้ง เสมอกัน32ครั้ง
ผลงานล่าสุดของ เชลซี ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 10 ประตูและเสีย 5 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด ส่วน แอสตัน วิลล่า ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ ถึง 17 ประตูและเสีย 5 ประตู จากการลงสนาม 6 นัดหลังสุด
ความพร้อมของทั้งสองทีม
เชลซี ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล เพิ่งจะบุกเจ๊า ลิเวอร์พูล 1-1 ทำให้สามเกมหลังสุดในลีกยังไม่แพ้ใคร สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รีซ เจมส์ ที่ติดโทษแบนและ ธิอาโก้ ซิลวา ซึ่งติดโทษแบนจากทางฟีฟ่าในกรณีไม่ไปร่วมทัพกับทีมชาติ คาดว่า ทูเคิ่ล เตรียมจัดทัพ โรเมลู ลูกากู ยืนหอกเป้ามี ไค ฮาแวร์ตซ์, เมสัน เม้าต์ เป็นเพลย์เมคเกอร์ทำเกมอยู่ด้านหลัง
ด้าน แอสตัน วิลล่า ของกุนซือ ดีน สมิธ เพิ่งจะเปิดรังเจ๊าน้องใหม่ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 นัดนี้จะไม่มี เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ มือกาวตัวเก่งและ เอมิเลียโน่ บูเอนเดียกองกลางสำคัญที่ต้องกักตัวหลังไปรับใช้ทีมชาติ แต่ข่าวดีคือ จาค็อบ แรมซี่ย์ และ มอร์ก็อง ซองซง สองมิดฟิลด์จะฟิตกลับมาเป็นตัวเลือก เกมนี้คาดว่า สมิธ เตรียมวาง ออยลี่ วัตกิ้นส์ ยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ แดนนี่ อิงส์ ยืนหน้าต่ำคอยซัพพอร์ทอยู่ด้านหลัง
คู่นี้มองว่า เชลซี ด้วยศักยภาพของทีมเเละความมั่นใจที่ดูดีกว่า อีกทั้งขุมกำลังยังดูสมบูรณ์กว่าด้วย เเละเกมในลีกก็ยังไม่เเพ้ใคร รวมถึงนัดนี้ได้เล่นในบ้านตัวเองอีกต่างหากน่าจะฮึกเหิมพอสมควร ประกอบกับทางฝั่งของแอสตันวิลล่า ที่ตัวหลักหายไปด้วยมาตรการโควิด-19 หลายราย ทำให้จะเป็นจุดที่เชลซีดูเหนือกว่าเเละเล่นได้สบายมากขึ้น ดูแล้ว เชลซี น่าจะเอาชนะ แอสตันวิลล่า ได้ไม่ยาก ใน ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news