เรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ให้กับเด็กถือเป็นกลุ่มเป้าที่ต้องให้ความสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะเด็กถือว่ามีความเสี่ยง ในการได้รับเชื้อ
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำร่องฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับเด็กและเยาวชนอายุ 10-18 ปี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ โดยเป็นการลงทะเบียนผ่าน โครงการ “Vacc 2 School” โดยภายหลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้วนักเรียนทุกคนจะได้รับการนัดหมายและใบยินยอมการรับวัคซีนจากนั้นให้นำเอกสารมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อกรอกข้อมูลเข้ารับวัคซีน
โดยในวันนี้ ทีมข่าว INN ได้ลงพื้นที่ติดตาม จุดฉีดวัคซีนโนฟาร์มให้กับเด็กและเยาวชน ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) พบว่า ตลอดทั้งวันมีโรงเรียนที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ ได้นำเด็กนักเรียนมาเข้ารับวัคซีนตามเวลาใบนัดหมายอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะมาเป็นหมู่คณะ ซึ่งเมื่อมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่จิตอาสาและเจ้าหน้าที่จาก บริษัท ทีโอที คอยอำนวยความสะดวก ชี้แจงขั้นตอน ให้กับเด็กๆและผู้ปกครอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้รอยังจุดที่จัดไปบริการ ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านในจุดฉีดวัคซีนได้
อาจารย์อรุณศรี อัครปัญญาธรผู้ช่วยผู้จัดการ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า นักเรียนที่มารับวัคซีนทุกคนได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง เนื่องจากทางโรงเรียนได้ชี้แจงและประชุมหารือร่วมกับผู้ปกครองขอความสมัครใจไม่บังคับแต่อย่างใด และจะต้องมีหนังสือแสดงความยินยอมผู้ปกปกครองก่อนจะนำเด็กมารับวัคซีน
ขณะที่ผู้ปกครอง บอกกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ไม่กังวลเรื่องผลข้างเคียงที่ให้ลูกเข้ารับวัคซีน ซิโนฟาร์ม เนื่องจากมองว่า อยู่ในโครงการของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยจะมีทีมแพทย์คอยติดตามอาการอยู่แล้ว มีความเสี่ยงน้อยกว่าที่เดิน Walk in เข้าไปฉีดเอง อีกทั้งวัคซีนชนิดนี้ที่จีนก็มีการฉีดเช่นกัน ซึ่งมั่นใจในวัคซีนซิโนฟาร์ม และพอใจกับข้อมูลที่ได้รับก่อนตัดสินใจพาลูกมาฉีด ขณะนี้กลัวโควิดมากกว่า กลัววัคซีน อีก
ด้านเด็กนักเรียนส่วนใหญ่มีทั้งกังวลและไม่กังวลต่อการเข้ารับวัคซีนครั้งนี้ หลายคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับเด็กว่าจะมีผลข้างเคียงหรือเกิดผลกระทบแต่อย่างใดในเรื่องของความปลอดภัยแต่ภาพของผู้ปกครองและเด็กนักเรียนที่มารับวัคซีนในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ปกครองและเด็กนักเรียนต้องการที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองมากกว่าความกังวลเรื่องผลกระทบของวัคซีนเพราะเด็กนักเรียนหลายคนอยากออกมาเจอสังคมและเจอเพื่อนฝูงมากกว่าการเรียนออนไลน์ที่บ้านที่บ้าน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news