จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรี เดินสายลงพื้นที่ช่วยเหลือต่อเนื่องทำให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะซ้ำรอย น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 หรือ เมื่อ 10 ปีก่อนอีกครั้งหรือไม่ เพราะหลายอย่างมีลักษณะคล้ายกัน คือช่วงต้นปีแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำและเมื่อเข้าหน้าฝนก็มีพายุฝนหนักหลายพื้นที่ โดยครั้งนั้นมี”พายุหมุนนกเตน” ขณะในปีนี้ มีพายุ “เตี้ยนหมู่” และผลที่ออกมาก็ยิ่งเหมือนกันไปใหญ่ คือหลายจังหวัดในภาคเหนือ ทั้งสุโขทัย นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ล้วนจมใต้บาดาล ขณะเดียวกัน ฝั่งอีสาน โคราช ขอนแก่น ชัยภูมิ ก็ถูกน้ำท่วมทั้งหมด แม่น้ำสายสำคัญ เขื่อน ล้วนรับน้ำไม่ไหว ซึ่งหากจะฉายภาพซ้ำกับปี 54หลังจากนี้ น้ำเหนือจะค่อยๆ ไหลลงสู่ที่ภาคกลาง ที่ราบลุ่มเจ้าพระยา และลพบุรี ก็รับน้ำไปแล้ว ซึ่งหากยังมีฝนหนักมาสมทบอีก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องจังหวัดรอบนอกกรุงเทพฯ อื่นๆ ทั้ง ปทุมธานี นนทบุรี หรือ พระนครศรีอยุธยา ก็จะกลายเป็นพื้นที่รับน้ำท่วมด่านต่อไป หรืออาจรวมถึงพื้นที่ กทม.บางส่วน ซึ่งเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อนถูกบันทึกไว้ว่า เป็น”อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ทั้งในแง่ของปริมาณน้ำ และจำนวนผู้ได้รับผลกระทบนั่นเอง
จากความเสียหายของน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปในทุกภาคส่วนนั้น ท้ายที่สุดก็ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นการเมืองในเวลาต่อมามีการกล่าวหารัฐบาลก่อนวางยา เรื่องปริมาณน้ำกักเก็บของแต่ละเขื่อน มีการกล่าวหา รัฐบาลในขณะนั้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารจัดการน้ำผิดพลาด ล้มเหลวตอบโต้กันไปมาทั้งในสภา และนอกสภา พร้อมกับมีการพยายามถอดบทเรียนของหลายหน่วยงาน เพื่อเอาไว้ใช้ในรับมือหากมีสถานการณ์เกิดขึ้นอีก และในภายหลังมีการยกเครื่องระบบบริหารจัดการน้ำใหม่ มีการตั้งสำนักงานขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะ ภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ในยุค คสช.จนมาถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งนับได้กำลังเป็นปีที่ 8 ใช้งบประมาณไปแล้วนับแสนล้านบาท สำหรับความพยายามในการป้องกันแก้ปัญหาทั้งน้ำแล้ง และน้ำท่วม แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น “น้องน้ำ” ภัยธรรมชาติก็กลับมาเล่นงานประชาชนอีกครั้ง ในจังหวะที่ประเทศกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤตโควิด 19 และปัญหาทางเศรษฐกิจที่ประสบอยู่ก่อนหน้านี้ ประหนึ่งเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ส่วนจะมีความรุนแรงเทียบเท่าหรือไม่ รัฐบาลชุดนี้ จะเอาอยู่หรือไม่ ก็ได้แต่ภาวนา หรือสวดมนต์แบบที่นายกรัฐมนตรีบอกเท่านั้น เพื่อขอให้สถานการณ์นี้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
