Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

โควิดคาน้ำมาการเมืองวุ่นศก.ติดกับ

โควิดคาน้ำมาการเมืองวุ่นศก.ติดกับ ประเมินแล้วว่าน่าจะเสียหายมากกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 15,000-25,000 ล้านบาท

 

คลายล็อกชัดเจนทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงเดือนกันยายนกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในรอบ 7 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 41.4 แต่จะฟื้นความเชื่อมั่นได้ต่อเนื่องหรือไม่ตุลาคมนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะแม้รัฐบาลผ่อนคลาย แต่น้ำท่วมกลับเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นที่กำลังมีน้ำหนักมากขึ้นเพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมเวลานี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินแล้วว่าน่าจะเสียหายมากกว่าที่คาดการณ์อยู่ที่ 15,000-25,000 ล้านบาท ไตรมาสที่ 4 หากไม่มีเม็ดเงินเติมเข้าระบบเศรษฐกิจ อุดความเสียหาย เศรษฐกิจจะโดนฉุดลดลง ร้อยละ 0.5-0.7 มีโอกาสเสี่ยงที่ในช่วงไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจจะติดลบ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมแน่นอน เพราะไตรมาส 4 ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะ กระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มเม็ดเงินในกระเป๋า หากฟื้นไม่ได้มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะซบเซาต่อเนื่อง

ไม่ต่างอะไรกับดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ บอกว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย ซึ่งสำรวจมาจากประธาน รองประธาน และเลขาธิการหอการค้าทั่วประเทศ ในช่วงเดือนกันยายนดัชนียังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่6 มาอยู่ที่ระดับ 19.4 ซึ่งเป็นดัชนีที่ถือว่าตกต่ำเป็นอย่างมาก ไม่ใกล้เคียงกับการฟื้นตัว และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ยังคงมีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า แม้จะมีการฉีดวัคซีนได้อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังถือว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูง น้ำท่วมในหลายจังหวัดขยายวงกว้างและยาวนานมากขึ้น ส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจทำให้ชะลอตัว รวมถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงื่อนไขใหม่ เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นกำลังเป็นปัจจัยที่สำคัญทำให้ ประเทศไทยกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายในการดูแลลดผลกระทบจากปัจจัยราคาน้ำมัน ซึ่งมีผลกับเศรษฐกิจหลายภาคส่วน ปัจจัยลบค่อนข้างรุมเร้า โดยเฉพาะการเมืองเสถียรภาพทางการเมืองจากสถานการณ์การชุมนุม และการเผชิญหน้าของคู่ขัดแย้ง อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้ ยังจับทางไม่ถูกจะออกหัวหรือออกก้อย

แต่หวังว่าจะไม่มีใครทิ้งประชาชนไว้กลางทาง จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ขอให้ยังเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบตามแผนเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เปิดประเทศได้ ดึงเม็ดเงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง สร้างรายได้ชดเชยเกือบ 2 ปีที่หายไป จากเม็ดเงินเกือบ 3 ล้านล้านบาทในปี 2562 เหลือเพียง 3.8 แสนล้านบาทในปีนี้ ได้มากได้น้อยขอให้ได้เริ่มต้น ดำเนินการด้วยความปลอดภัยเพื่อความยั่งยืนในอนาคต ..

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube