จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่าง ๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย และร้องขอหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศ
วันนี้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 2 คดี
สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ได้มีแรงงานไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ได้ร้องขอความช่วยเหลือกับสื่อผ่านทางออนไลน์ พร้อมร้องขอให้ทางการไทยช่วยเหลือและรับตัวกลับประเทศ ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการช่วยเหลือเหยื่อ พร้อมทั้งให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ 10 ราย ประกอบด้วย ชาวจีน 4 ราย กัมพูชา 4 ราย และคนไทย 2 ราย
คดีแรกสามารถจับกุม น.ส.อุบลรัตน์ พุฒไพรสกุล และ น.ส.เทียนฟ่ง แซ่หลี่ สัญชาติจีน ถูกจับกุมได้ที่ อ.ฝาง และ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 ต.ค 64 ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน ปคม. ดำเนินคดี โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวง และบังคับให้คนไทยทำงานผิดกฎหมายในเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีการโพสต์รับสมัครงาน หาคนไปทำงานต่างประเทศ เน้นเหยื่อที่สามารถพูดได้หลายภาษา
อ้างว่าจะให้ไปทำงานร้านอาหาร หรือธุรกิจ ต่างๆ เมื่อไปถึงปลายทางจะทำการบังคับ ขู่เข็น กักขัง ให้เหยื่อเป็นคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม เพื่อโทรศัพท์กลับมาหลอกหลวงคนไทย โดยอ้างว่าเหยื่อติดหนี้ที่ใช้ในการดำเนินการและการเดินทาง
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร สามารถสืบสวนและจับกุม นายเจ๊ะปา ลาปีดี อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาลักลอบแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในประเทศมาเลเซีย และหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้าที่ทางการมาเลเซียได้ทำการสืบสวนขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศจนทราบว่าให้ขบวนการมีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาคนไทย 9 ราย ภายหลังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 9 รายได้เดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทย จึงได้ร้องขอให้ทางการไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศมาเลเซีย
โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวได้กระทำความผิดตั้งแต่ปี 2558 และถูกศาลกางาร์ ประเทศมาเลเซียออกหมายจับในปี 2559 ซึ่งนายเจ๊ะปา ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ และอาจจะเป็นหัวหน้าในขบวนการฝั่งไทยที่ทำหน้าที่ในการประสานงานทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
นอกจากนี้ยังพบความเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนย้ายแรงงานชาวโรฮิงญา มาควบคุมไว้ที่ ที่พักชั่วคราวในเขตวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส โดยระหว่างที่แรงงานถูกขังก็ถูกทารุณกรรมโดยการเฆี่ยนตีจนเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการมาเลเซียมีการตรวจพบหลุมศพกว่า 30 หลุม ใกล้บริเวณที่พักผิดกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ตำรวจจะดำเนินการประสานกับ ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อนำกฎหมายการฟอกเงินมาอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news