กรุงเทพมหานครยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับกลุ่มเด็กนักเรียน ม.1-6 หรือเทียบเท่าที่มี อายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รองรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564
ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จากข้อมูลของสำนักการศึกษาพบว่า นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 สังกทม.มีทั้งหมด 37,466 คน มีผู้ประสงค์รับวัคซีน Pfizer จำนวน 33,048 คน คิดเป็นร้อยละ 88% จำแนกเป็นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 3,796 คน ซึ่งได้ฉีดวัคซีนแล้วเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 64 จำนวน 3,284 คน คิดเป็นร้อยละ 87
สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีน มีจำนวน 31,500 คน ดำเนินการฉีดเข็มแรกระหว่างวันที่ 18 – 20 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา และจะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.นี้ รวมจำนวน 16 จุดฉีด
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เปิดเผยถึงแนวทางการเปิดภาคเรียนว่าเนื่องจากเด็กนักเรียนระดับม.ต้น จะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ช้ากว่าเด็ก ม.ปลาย จึงเสนอที่ประชุมผู้บริหารกทม.ให้เปิดภาคเรียนเป็น 2เฟส คือ เด็กม.ปลายเปิดเรียนวันที่ 1 พ.ย.นี้
และเด็ก ม.ต้น เปิดเรียนวันที่ 15 พ.ย.โดยจะมีการประชุมและซักซ้อมกับโรงเรียนทั้ง 109 แห่งในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ และในวันที่ 29 ต.ค.จะทำบิ๊กคลีนนิ่ง ยืนยันว่าในส่วนของเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนยี่ห้ออื่นทางโรงเรียนไม่มีการปิดกั้น โดยยังสามารถมาเรียนได้ แต่จะมีมาตราป้องกัน เช่น จัดแบ่งพื้นที่ให้ชัดเพื่อดูแลเด็กกลุ่มนี้
“แต่ว่าเราก็ไม่ได้ว่าถ้าน้องไม่ได้ฉีดแล้วไม่ให้มาโรงเรียนไม่ใช่ / เราก็ให้สิทธิ์เขาแต่ก็ต้องมีมาตรการ เช่น แบ่งพื้นที่ให้ชัดในกลุ่มนี้ /แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นว่ามาไม่ได้ ไม่ใช่ / เพราะก็มีการวางแนวทางอยู่แล้ว”
สำหรับครูอาจารย์ บุคลากรของโรงเรียนสังกัด กทม.ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 95 % โดยจะมีชุดตรวจ ATKให้คนละ 2 ชุด สำหรับผู้ปกครองเด็กทางโรงเรียนมีการประสานพูดคุยอยู่ตลอดและทราบว่าส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน
ส่วนมาตรการหลักของโรงเรียนในวันเปิดเทอม จะมีจุดตรวจคัดกรองเด็ก ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย วันจะ 3 รอบ จัดห้องเรียนละ 25 คน ล้างมือบ่อยๆและให้สวมแมสก์ 100 %
ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่าหากเกิดการติดเชื้อเกิดขึ้นในโรงเรียนก็จะมีพิจารณาปิดห้องเรียนนั้นๆเพื่อทำความสะอาด และส่งต่อไปยัง รพ. หรือสาธารณสุขที่อยู่ในพื้นที่ ย้ำว่ามีแผนฉุกเฉินเตรียมอยู่แล้วและวันที่ 28 ต.ค.นี้ ก็จะมีการซักซ้อมอย่างเข้มข้น
“เฉพาะห้องเนี่ยเราก็ปิดอยู่แล้ว เพราะเด็กจะอยู่ในห้องนั้นและทำความสะอาด/แต่ในส่วนของโรงเรียน ถ้าเด็กที่ติดเชื้ออยู่แต่ในห้องนั้น /ห้องอื่นก็ยังโอเคอยู่/เราก็ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย/กรณีที่เป็นเราก็มีการส่งต่อ / ตรงนี้เราก็จะ Transfer ไปยังสาธารณสุข หรือ รพ.ที่อยู่ใกล้ นะครับ / เรามีแผนฉุกเฉินไว้อยู่แล้วและวันที่ 28 ต.ค.นี้ ก็จะซักซ้อมอีกครั้ง ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news