อีกไม่ถึง 24 ชั่วโมง วินาทีประวัติศาสตร์ของชาติก็จะเกิดขึ้น เพราะวันที่ 1 พ.ย.2564 คือวันที่ ประเทศไทย จะกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แม้จะไม่เต็มรูปแบบเหมือนกับช่วงก่อนโควิด 19 จะระบาดไปทั่วโลก แต่ก็นับเป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญ ที่จะเป็นตัวจุดประกายกอบกู้เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงชุมชนให้กลับมามีรายได้อีกครั้ง หลังซบเซาอย่างหนัก
จนบางรายต้องเลิกกิจการไปแล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การเปิดประเทศครั้งนี้ นับเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญของ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศมานานแล้วจะเปิดประเทศใน 120 วัน เพราะหากมองผิวเผิน ประเทศไทย ยังไม่พร้อม 100% จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังเกือบหมื่น
ฝ่ายการเมืองก็ตั้งป้อมโจมตีเตรียมขยายผลทันที หากเปิดประเทศแล้วตัวเลขพุ่ง แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต รัฐบาลจะได้ดอกไม้ หรือจะโดนก้อนอิฐ แต่สิ่งหนึ่งที่การันตีได้ คือ ระบบสาธารณสุขไทย ที่มี “อนุทิน ชาญวีรกุล”
เป็นผู้บริหารสูงสุด เป็นที่ยอมรับของสากล
หน่วยงานต่างๆชื่นชมว่า ประเทศไทย เป็น 1 ในประเทศที่จัดการแก้ปัญหาโควิด 19 ได้ดี ในระดับต้นของโลก มีเพียงคนไทยที่เห็นต่างเท่านั้นที่ไม่ยอมรับ และพยายามดิสเครดิต ว่าทุกอย่างเกิดจากความร่วมมือของประชาชนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เมื่อ 1 พ.ย.มาถึง ทุกคนก็จะได้รู้ว่าการเปิดประเทศนั้น รัฐบาลเตรียมพร้อมมาแล้วมากน้อยเพียงใด
นอกเหนือจากการเปิดประเทศแล้ว 1 พ.ย. ยังจะมีการเปิดโรงเรียนอีกครั้ง ในรูปแบบออนไซต์ ของโรงเรียนที่มีความพร้อมด้านความปลอดภัยในการป้องกัน โควิด 19 หลังมีการระดมฉีดวัคซีน บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
รวมถึงวางมาตรการอื่นๆรองรับภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ ที่มี “ตรีนุช เทียนทอง”เป็นหัวเรือใหญ่ กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อที่จะให้ ลูกหลานไทย ได้กลับมาเรียน
ในรูปแบบปกติได้อีกครั้ง
เช่นเดียวกับรัฐสภา ก็จะเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง อย่างเป็นทางการ ในวันเดียวกับที่จะมีการเปิดประเทศ และเปิดโรงเรียนด้วยเช่นกัน จึงนับเป็นจังหวะเหมาะ ลงล็อกพอดี ผู้แทนของประชาชน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ จะได้เริ่มตรวจสอบติดตามผลงานของรัฐบาล
ว่าความพร้อมทั้งเปิดประเทศและเปิดโรงเรียน ที่มีบางคนเป็นห่วง และกังวลนั้น เป็นอย่างไร พร้อมจริงหรือไม่ ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ผ่านกลไกของสภา ตามรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป
โดยไม่ลงมติได้ ไม่ต้องไปเดินขบวนตามท้องถนนให้ชาวบ้านเดือดร้อน หรือเกาะกระแสม็อบเด็กมาโจมตีรัฐบาล แต่สิ่งที่น่าสนใจเมื่อเปิดสมัยประชุม นั่นคืออุณหภูมิของการเมือง เพราะบางพรรคยังอารมณ์ค้างจากสมัยประชุมก่อนในการซักฟอก ยังเคลียร์กันไม่จบ แม้จะมีความพยายามให้ข่าวว่าจบแล้วก็ตาม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news