เหลือเวลาอีกเพียง 1 วันเท่านั้น สำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจาก 46 ประเทศ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยหลายหน่วยงานต่างมีการเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและรองรับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว
ด้านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเช่นเดียวกัน ทั้งด้านเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล เข้า-ออก ของผู้โดยสาร รวมทั้งเตรียมความพร้อมของกำลังพลไว้ด้วย
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. / โฆษก สตม. กล่าวว่า เบื้องต้นได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจประทับลงตราบุคคลเข้าเมืองไว้ 35 ช่องตรวจ ในฝั่งตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นส่วนที่จะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และสำรองกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมไว้อีก 14 ช่องตรวจ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหากเจ้าหน้าที่ชุดแรกไม่เพียงพอ โดยจะมีการทดสอบระบบการบันทึกข้อมูลของผู้เดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด ข้อมูลอัตลักษณ์ บุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ บุคคลผู้มีหมายจับ รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมควบคุมโรค
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงสนามบิน ด่านควบคุมโรคเป็นด่านแรกที่ต้องเจอโดยจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจเอกสารการตรวจโรคโควิด -19 ( RT-PCR Test ) จากประเทศต้นทาง ตรวจการรับการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ตรวจประกันสุขภาพมูลค่า 50,000 เหรียญ USD รวมทั้งตรวจการจองโรงแรมที่เข้าร่วมในโครงการ
เมื่อผ่านด่านของกรมควบคุมโรคแล้ว ต่อมาเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยเมื่อตรวจประทับลงตราผ่านเข้าเมืองเเล้ว สามารถรับกระเป๋าแล้วเดินทางออกจากสนามบินไปยังโรงแรมที่พักได้โดยไม่ต้องกันตัว 14 วัน เมื่อถึงโรงแรมจะมีการตรวจ RT-PCR Test และรอผลตรวจ 1 คืน หากผลตรวจเป็นลบ ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทันที
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวนอกเหนือจาก 46 ประเทศตามที่รัฐบาลกำหนด จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามระเบียบต่อไป
สำหรับคนไทยที่เดินทางไปยังต่างประเทศไม่ครบ 21 วันในเขต 46 ประเทศตามประกาศของรัฐบาล สามารถเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยมีเงื่อนไขว่าต้องอยู่ในเขต 46 ประเทศ เกิน 21 วัน หากไม่ครบ 21 วัน เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยจำเป็นต้องกักตัว 14 วัน
สำหรับ Visa On arrival ( VOA ) สำหรับ 17+1 ประเทศ มีการเปิดใช้แล้ว แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังคงต้องติดต่อ สถานทูตหรือกงศุล เพื่อขอ COE เนื่องจากการเดินทางเข้าประเทศในช่วงนี้ยังต้องมีเอกสารอื่น ๆ นอกเหนือจากวีซ่าเข้าเมืองปกติ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
